ผลการศึกษา 2 แห่งเผยให้เห็นว่าตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบในนิวยอร์ก ซิตี เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน อาจสามารถต้านทานวัคซีนที่กำลังฉีดกันอยู่ในปัจจุบันมากกว่าตัวอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แพทย์ระดับสูงในวันพฤหัสบดี (25 ก.พ.) รุดออกมาปัดเป่าความกังวล ชี้ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปประสิทธิภาพของวัคซีนกับตัวกลายพันธุ์นี้
นายแพทย์เจย์ วาร์มา หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของบิล เดอ บราซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะอนุมานผลจากห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต่างๆ ที่มีต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ดังกล่าว พร้อมกับสะท้อนความกังวลของบรรดานักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ที่ตั้งคำถามว่าทำไมผลการศึกษาในเบื้องต้นถึงหลุดสู่สื่อมวลชน ก่อนถึงมือนักวิชาการ
“เรายังไม่รู้เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของมนุษย์มากพอที่จะสามารถสรุปเรื่องนี้โดยตรง” เวอร์มากล่าวระหวางแถลงสรุปร่วมกับนายกเทศมนตรี “นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทดลองทางคลินิก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง”
เวอร์มา เน้นว่า การทดลองทางคลินิกของวัคซีน ในนั้นรวมถึงการทดลองในประเทศอื่นๆ อาทิ บราซิล และแอฟริกาใต้ ดินแดนที่กำลังทดสอบวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ยังไม่ได้อนุมัติ พบว่าวัคซีนทั้งหลาย “มีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง” สำหรับป้องกันการเสียชีวิต หรือป่วยหนักจากการติดเชื้อ
ตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และบราซิล สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า และเวลานี้พวกมันกำลังแพร่ระบาดในวงกว้างสู่ประเทศอื่นๆ
ในสหรัฐฯ ดินแดนซึ่งไวรัสคร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 500,000 รายในช่วง 13 เดือน ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่และเสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในความกังวลเกี่ยวกับภาวะคนไข้ล้นระบบสาธารณสุขท้องถิ่น ก็ลดลงมาแล้วเกือบ 60% จากระดับสูงสุด 53,938 คนในวันที่ 6 มกราคม
แม้ภาพรวมอยู่ในแนวโน้มขาลง แต่ยังคงพบผู้เสียชีวิตระดับสูงในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยยอดรวมผู้เสียชีวิตในรัฐแห่งนี้ทะลุ 50,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธ (24 ก.พ.) ตามมาด้วยนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิต 46,871 ราย
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) คาดหมายว่ามีประชาชน 45.2 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับอนุมัติแล้วของไฟเซอร์ อิงก์ ที่ร่วมพัฒนากับ ไบโอเอ็นเทค หรือวัคซีนของโมเดอร์นา อิงก์ อย่างน้อย 1 โดส จากทั้งหมด 2 โดส ขณะที่วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน คาดหมายว่าจะได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
จากข้อมูลขอบรรดานักวิจัยของวิทยาลัยอายุรแพทย์และศัลยกรรม มหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ระบุในบรรดาเคสผู้ติดเชื้อใหม่จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า B.1.526 ราวๆ 12%
พวกนักวิจัยมหาวิทยาลัยโคลอมเบียพบว่า B.1.526 มีลักษณะที่น่ากังวลบางอย่างแบบเดียวกับตัวกลายพันธุ์แอฟริกาใต้และบราซิล โดยหลายผลการศึกษาบ่งชี้ว่ามันสามารถต้านทานวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันบางตัว ได้มากกว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้
ซีดีซี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ต่างๆ นานาแล้วมากกว่า 1,900 เคส กระจายอยู่เกือบทุกรัฐของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ซึ่งแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมเหล่าเท่า
เวอร์มา แนะนำผู้อ่านอย่าด่วนปักใจเชื่อรายงานผลการศึกษาล่าสุด พร้อมระบุว่าไม่ใช่ทุกตัวกลายพันธุ์จะเพิ่มระดับความกังวลด้านสาธารณสุข โดยเขาให้คำจำกัดความการค้นพบล่าสุดว่าเป็น “ตัวกลายพันธุ์ที่น่าสนใจ” ซึ่งควรศึกษาเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด
(ที่มา : รอยเตอร์)