“แอสตราเซเนกา” บริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติสหราชอาณาจักร เปิดเผยในวันเสาร์ (6 ก.พ.) วัคซีนที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพลดน้อยลงกับผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่มีอาการเล็กๆ น้อยๆ ตามรายงานของสื่อมวลชนที่อ้างอิงข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลอง
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส เผยแพร่รายงานในวันเสาร์ (6 ก.พ.) ระบุการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิทวอเตอร์สรันด์ของแอฟริกาใต้ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พบว่าวัคซีนลดประสิทธิภาพลงอย่างมากในการป้องกันตัวกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ของโควิด-19
ผลการศึกษาถูกเผยแพร่ออกมา ในขณะที่ตัวกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักร, แอฟริกาใต้ และบราซิล เป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ที่กำลังสร้างความกังวลแก่บรรดานักวิทยาศาสตร์และเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านมากที่สุด เนื่องจากดูเหมือนว่าพวกมันจะแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวอื่นๆ
โฆษกของแอสตราเซเนกา ตอบรับรายงานข่าวของไฟแนนเชียลไทม์ส ระบุว่า “ในการทดลองกลุ่มเล็กๆ ขั้น 1 และ 2 ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพอย่างจำกัดกับอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ส่วนใหญ่ ที่สืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ B.1.351”
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส ระบุว่า ในบรรดาอาสาสมัครมากกว่า 2,000 คนนั้น ไม่มีใครที่ถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต
“อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถตรวจสอบอย่างถูกต้องเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต่อผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงหรือผู้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องด้วยอาสาสมัครเหล่านั้นเป็นคนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรงเป็นส่วนใหญ่” โฆษกของแอสตราเซเนกากล่าว
บริษัทฯ เชื่อว่าวัคซีนของพวกเขาสามารถป้องกันอาการติดเชื้อรุนแรง ด้วยการกระตุ้นแอนติบอดีที่มีฤทธิ์ลบล้าง (Neutralizing antibody) เทียบเท่ากับวัคซีนโควิด-19 อื่นๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันนอาการติดเชื้อรุนแรงได้
การทดลองครั้งนี้เกี่ยวข้องกับอาสาสมัคร 2,026 คน ในนั้นครึ่งหนึ่งเป็นกลุ่มที่รับยาหลอก อย่างไรก็ตาม มันยังไม่ผ่านการทบทวนของผูู้ทรงคุณวุฒิ (peer-reviewed)ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส
เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม สื่อมวลชนอังกฤษรายงานว่าบรรดานักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กำลังเตรียมการสำหรับเร่งผลิตวัคซีนเวอร์ชันใหม่ เพื่อต่อสู้กับการปรากฏตัวของตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม ซึ่งถูกพบในสหราชอาณาจักร, แอฟริกา และบราซิล
ในเรื่องนี้โฆษกของแอสตราเซเนการะบุในวันเสาร์ (6 ก.พ.) “มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และแอสตราเซเนกา ได้เริ่มดัดแปลงวัคซีนใช้กับตัวกลายพันธุ์นี้ และจะมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วผ่านพัฒนาการทางคลินิก ดังนั้น หากมีความจำเป็นมันจะพร้อมสำหรับส่งมอบในเดือนฤดูใบไม้ร่วง”
ความพยายามดัดแปลงวัคซีน มีขึ้นแม้ในวันศุกร์ (5 ก.พ.) มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ของพวกเขามีประสิทธิภาพกับตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักร เช่นเดียวกับโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม
แอนดรูว์ โปลลาร์ด หัวหน้าโครงการทดสอบวัคซีนของออกซ์ฟอร์ด ระบุว่า ข้อมูลจากการทดสอบวัคซีน ChAdOx1 ในอังกฤษ ได้ผลว่าวัคซีนดังกล่าวไม่ได้ป้องกันเพียงเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.7 ได้ด้วย ซึ่งโควิด-19 สายพันธุ์นี้ทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วสหราอาณาจักรในช่วงปลายปี 2020
อย่างไรก็ตาม ซาราห์ กิลเบิร์ต ผู้ร่วมพัฒนาวัคซีน ระบุว่า แม้ว่าวัคซีนตัวนี้จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ แต่อาจต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับโควิด-19 สายพันธุ์ที่เป็นการกลายพันธุ์ใหม่ในอนาคต
(ที่มา : รอยเตอร์)