เคสผู้ติดเชื้อใหม่โควิด-19 ลดลง 11% ในสัปดาห์ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถือเป็นการลดลง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งการส่งมอบวัคซีนภายใต้โครงการโคแว็กซ์ที่นำโดยองค์การอนามัยโลกเพิ่งส่งมอบถึงมือกานาเป็นชาติแรกในวันพุธ (24 ก.พ.)
องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อวันอังคาร (23 ก.พ.) ได้รับรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลก 2.4 ล้านคน และเสียชีวิตเพิ่มเติม 66,000 คน ในสัปดาห์ถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลง 11% และผู้เสียชีวิตใหม่ลดลง 20% จาหหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ข้อมูลนี้ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มเป็น 110.7 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 2.4 ล้านคน นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มต้นขึ้น
สหรัฐฯยังคงเป็นชาติทีมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดในโลก ตามด้วย บราซิล ฝรั่งเศส รัสเซีย และ อินเดีย อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกเน้นว่าหลายประเทศแจ้งว่าเคสไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โดยรวมลดลง แม้มีรายงานพบเห็นการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น
องค์การอนามัยโลกระบุว่าตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เวลานี้พบใน 101 ประเทศทั่วโลก ส่วนตัวกลายพันธุ์ B.1.351 ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ เวลานี้พบใน 51 ประเทศ ส่วนตัวกลายพันธุ์ B.1.1.28.1 ที่แพร่ระบาดน้อยกว่าและถูกพบครั้งแรกในบราซิลกับญี่ปุ่น เวลานี้พบใน 29 ประเทศ
คำแถลงเกี่ยวกับภาพรวมการแพร่ระบาดล่าสุด มีขึ้นในขณะที่กานากลายเป็นประเทศแรกที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ผ่านโครงการโคแว็กซ์ขององค์การอนามัยโลกในวันพุธ (24 ก.พ.) ตามคำแถลงร่วมที่เผยแพร่โดยยูนิเซฟประจำกานาและองค์การอนามัยโลกประจำกานา
สินค้าซึ่งประกอบด้วย วัคซีนของแอสตราเซเนกา 600,000 โดส เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโคโตกา ในกรุงอักกรา เมืองหลวงของกานา ด้วยเที่ยวบินของสายการบินเอมิเรตส์ ตอนเวลา 7.00น.ของวันพุธ (24 ก.พ.)
วัคซีนชุดดังกล่าวผลิตโดยสถาบันเซรัมแห่งอินเดีย และเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนโควิด-19 ชุดแรกๆ ภายใต้โครงการโคแว็กซ์ ที่มุ่งหน้าสู่เหล่าประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง ถ้อยแถลงร่วมระบุ
โคแว็กซ์คือพันธมิตรนานาชาติที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อมอบการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมกันทุกประเทศ ด้วยที่ผ่านมา เหล่าประเทศร่ำรวยทั้งหลายถูกกล่าวหาว่ากว้านซื้อวัคซีนและทิ้งบรรดาชาติต่างๆ ในทวีปแอฟริกาอยู่ในลำดับท้ายๆ ในโครงการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ หากเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ประเทศต่างๆ ในแอฟริกาเริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ค่อนข้างช้า โดยมีแค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่เริ่มโครงการไปแล้ว
เทดรอส แอดฮานอม เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า “เราไม่อาจหยุดโรคระบาดใหญ่ที่ไหนๆ ได้ จนกว่าเราจะหยุดมันในทุกหนทุกแห่ง วันนี้เป็นก้าวย่างแรกที่สำคัญ ในการทำให้วิสัยทัศน์ของเราด้านการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมมุ่งหน้าสู่ความเป็นจริง แต่มันเพิ่งเริ่มต้น”
“เรายังคงมีงานมากมายที่ต้องทำร่วมกับรัฐบาลต่างๆ และบรรดาผู้ผลิตทั้งหลาย เพื่อรับประกันว่าวัคซีนสำหรับบุคลากรด้านการแพทย์และคนสูงวัย กำลังมุ่งหน้าไปในทุกประเทศภายใน 100 วันแรกของปีนี้” เขากล่าว
(ที่มา: ซีเอ็นเอ็น)