องค์การอนามัยโลก (WHO) ในวันจันทร์ (22 ก.พ.) โวยวายบรรดาประเทศร่ำรวยทั้งหลายที่กว้านซื้อวัคซีนโควิด-19 ระบุการทำเช่นนั้นยังเป็นการขวางเส้นทางของเหล่าชาติยากจนในการเข้าถึงวัคซีน ขณะที่ข้อมูลพบว่าโครงการโคแว็กซ์ (Covax) ขององค์การอนามัยโลก มีวัคซีนจัดสรรให้แก่ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมเพียง 337 ล้านโดส คิดเป็นแค่ 3% ของประชากรรวมของทุกชาติที่เข้าร่วมโครงการ
เทดรอส แอดฮานอม เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีชาติร่ำรวยบางประเทศทำข้อตกลงโดยตรงกับบรรดาผู้ผลิต นั่นหมายความว่าข้อตกลงจัดสรรวัคซีนแก่บรรดาชาติยากจนที่เห็นพ้องกันก่อนหน้านี้ผ่านโครงการโคแว็กซ์ถูกลดจำนวนลง
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกบอกต่อว่า เงินมีพร้อมสำหรับจัดซื้อวัคซีนแก่บรรดาประเทศยากจนบางชาติ หลังได้รับการสนับสนุนรอบใหม่จากสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และเยอรมนี แต่มันไม่มีค่าอะไรเลยหากไม่มีสินค้าให้ซื้อ
เทดรอส เรียกร้องบรรดาประเทศร่ำรวยทั้งหลาย ตรวจสอบว่าข้อตกลงต่างๆ ของพวกเขาที่ทำกับพวกบริษัทยา มีข้อตกลงใดบ้างที่บ่อนทำลายโคแว็กซ์ โครงการซึ่งเป็นที่พึ่งของเหล่าประเทศยากจน ในขณะที่พวกเขายังคงเฝ้ารอวัคซีนโดสแรกสำหรับต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ONE Campaign องค์กรที่ร่วมจัดตั้งโดย โบโน นักร้องนำวงยูทู ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สมาชิกกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ (จี7) รวมถึงบรรดาชาติอื่นๆ ที่เหลือของอียู และออสเตรเลีย จัดซื้อวัคซีนรวมกันเกือบ 1,250 ล้านโดส มากกว่าจำนวนที่จำเป็นสำหรับฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชากรของพวกเขาทุกคน
“บรรดาประเทศรายได้สูงบางส่วนติดต่อโดยตรงกับบรรดาผูุ้ผลิต เพื่อให้ได้วัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลกระทบข้อตกลงต่างๆ กับโคแว็กซ์ และถึงขั้นทำให้จำนวนที่จัดสรรสำหรับโครงการโคแว็กซ์ถูกปรับลด เพราะสิ่งนี้” เทดรอส กล่าว “เราจะมีวัคซีนส่งมอบแก่ประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกโคแว็กซ์ หากว่าบรรดาชาติร่ำรวย ให้ความร่วมมือเคารพข้อตกลงต่างๆ ของโคแว็กซ์”
วัคซีนชุดแรกของโครงการโคแว็กซ์จะถูกส่งมอบระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน โดยสมาชิกบางส่วนจากทั้งหมด 145 ชาติที่เข้าร่วม เตรียมได้รับวัคซีน 337.2 ล้านโดส เพียงพอสำหรับฉีดให้ผู้คนคิดเป็นเพียงแค่ 3% ของประชากรทั้งหมดของพวกเขารวมกัน
โคแว็กซ์แสดงความหวังว่าจะเพิ่มตัวเลขดังกล่าวเป็น 27% ในช่วงปลายเดือนธันวาคม
เมื่อวันจันทร์ (22 ก.พ.) สถาบันเซรัมของอินเดีย ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก เรียกร้องประเทศอื่นๆ ให้ “อดทน” เกี่ยวกับอุปทานวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยบอกว่าพวกเขาได้รับคำสั่งให้ความสำคัญกับตลาดภายในประเทศเป็นลำดับแรก
ส่วนคณะกรรมาธิการยุโรปกำลังประสานงานกับเหล่าบริษัทยายักษ์ใหญ่ สำหรับยกระดับกำลังผลิตเเป็น 2,000 ล้านโดส ถึง 3,000 ล้านโดสต่อปี มากเกินพอสำหรับประชากร 450 ล้านคนของอียู
เทียร์รี เบรตอง กรรมาธิการอียู กล่าวระหว่างเยือนโรงงานไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ในเบลเยียม ว่าเป้าหมายสำหรับยุโรป คือ การก้าวเป็นหมายเลข 1 แห่งทวีปผลิตวัคซีน แต่ขณะเดียวกันก็จะมีลืมบรรดาทวีปเพื่อนบ้าน
ก่อนหน้านี้ เทดรอส เรียกร้องให้ละเว้นการคุ้มครองสิทธิของทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับสินค้าทางการแพทย์โควิด-19 ความเคลื่อนไหวที่จะอำนวยความสะดวกมากขึ้นต่อการแบ่งปันองค์ความรู้ และยกระดับกำลังผลิตตามฐานการผลิตต่างๆ อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ถูกต่อต้านอย่างแข็งกร้าวจากเหล่าบริษัทยายักษ์ใหญ่