เลขาธิการใหญ่สหประชาติ สหรัฐฯ และฝรั่งเศส พร้อมใจกันประณาม “การใช้กำลังถึงตาย” ในพม่า หลังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 รายเมื่อวันเสาร์ (20 ก.พ.) ท่ามกลางสถานการณ์รุนแรง กองกำลังด้านความมั่นคงเปิดฉากใส่ผู้ประท้วงในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ เขียนบนทวิตเตอร์ว่า “ผมขอประณามการใช้ความรุนแรงเข่นฆ่าชีวิตในพม่า การใช้กำลังถึงตาย การข่มขู่และตามรังควานกับการประท้วงอย่างสันติ เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ทุกคนมีสิทธิชุมนุมอย่างสันติ ผมเรียกร้องทุกฝ่ายเคารพผลเลือกตั้งและกลับสู่ระบอบการปกครองโดยพลเรือน”
พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในความโกลาหลนับตั้งแต่ทหารเข้ายึดอำนาจจากอองซานซูจี ผู้นำพลเรือน ในการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยผู้ชุมนุมประท้วงหลายแสนคนหลั่งไหลลงถนนเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหาร
ในวันเสาร์ (20 ก.พ.) ตำรวจและทหารหลายร้อยนายรวมตัวกันที่อู่ต่อเรือยาดานาร์บอน ริมแม่น้ำอิระวดี ในเมืองมัณฑะเลย์ การปรากฏตัวของตำรวจและทหารก่อให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามจับกุมคนงานที่เข้าร่วมขบวนการต่อต้านรัฐประหาร
ชาวบ้านตีหม้อเคาะกระทะที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้าน และผู้ชุมนุมเริ่มร้องตะโกนใส่ตำรวจให้ออกไปจากบริเวณดังกล่าวและขว้างก้อนหินใส่ แต่เจ้าหน้าที่เปิดฉากยิงด้วยกระสุนจริง กระสุนยาง และหนังสติ๊ก เพื่อสลายผู้ชุมนุมประท้วง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และได้รับบาดเจ็บอีกราว 30 คน
เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันเสาร์ (20 ก.พ.) ระบุว่า อเมริการู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานข่าวกองกำลังด้านความมั่นคงพม่ายิงใส่ผู้ประท้วง ยังคงกักขังและตามราวีพวกผู้ประท้วงและคนอื่นๆ “เรายืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวพม่า”
เหตุเสียชีวิต 2 รายในเมืองมัณฑะเลย์ ส่งผลให้ในวันเสาร์ (20 ก.พ.) กลายเป็นวันที่มีการเสียเลือดเสียเนื้อมากที่สุดของการประท้วงที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 สัปดาห์
กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสออกถ้อยแถลงเช่นกัน ประณามอย่างหนักหน่วงต่อการใช้ความรุนแรงต่อพวกผู้ประท้วงของกองกำลังด้านความมั่นคงพม่า “ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในมัณฑะเลย์ เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้” คำแถลงระบุ
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)