รัฐมนตรีต่างประเทศเปรู เอลิซาเบธ แอสเตเต้ ลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันอาทิตย์ (14 ก.พ.) ท่ามกลางกระแสข่าวลืออื้อฉาวว่ามีหลายบิ๊กในคณะรัฐมนตรีใช้อภิสิทธิ์ ขโมยฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ก่อนที่ประเทศจะได้รับวัคซีนล็อตแรกสุด 1 ล้านโดส ที่กำหนดจะฉีดให้บุคลากรสาธารณสุขเป็นกลุ่มแรก ประธานาธิบดี ฟรานซิสโก ซากัสติ แห่งเปรู เป็นผู้ประกาศยืนยันการลาออกดังกล่าวทันทีที่ได้รับแจ้งจากเจ้าตัว
ข่าวลืออื้อฉาวดังกล่าวถูกเปิดโปงเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (11) หลังจากอดีตประธานาธิบดี มาร์ติน วิซคาร์รา ที่ถูกรัฐสภาถอดถอนออกไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2020 ด้วยเหตุผลว่า ขาดคุณสมบัติทางศีลธรรม ยืนยันกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า ตนและภรรยาเป็นส่วนหนึ่งของอาสาสมัคร 12,000 ราย ที่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดรุ่นทดสอบตัวยาที่ได้รับจากซิโนฟาร์มตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคม 2020 โดยวัคซีนดังกล่าวทางบริษัทเวชภัณฑ์ของรัฐบาลจีนแห่งนี้ “ให้มาเพื่อการทดลอง”
การเปิดโปงนี้ ส่งผลให้รัฐมนตรีสาธารณสุข ปิลาร์ มาซเซ็ตติ ยื่นใบลาออกในวันศุกร์ (12) หลังถูกสภากล่าวหาว่า ปกปิดข้อมูล
รัฐมนตรีแอสเตเต้ทวีตคำสำนึกผิดว่า รู้ตัวดีว่าได้ทำสิ่งผิดพลาดร้ายแรง และดังนั้น จึงตัดสินใจไม่รับวัคซีนโดสที่สอง แอสเตเต้บอกว่าตนได้รับการฉีดวัคซีนในวันที่ 22 มกราคม ตามมหาวิทยาลัยไคเยตาโน เฮอเรเดีย เสนอมา โดยเป็นวัคซีนส่วนที่เหลือตกค้างจากรุ่นที่ซิโนฟาร์มส่งมาให้เปรูทำการทดลอง ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการทดลอง และการฉีดวัคซีนให้แอสเตเต้มิได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลอง รอยเตอร์รายงาน
ก่อนที่แอสเตเต้จะเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีอีกรายที่ต้องพ้นตำแหน่งด้วยสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการขโมยวัคซีนโควิด-19 นั้น ประธานาธิบดี ซากัสติ ซึ่งโต้ตอบจริงจังกับกระแสข่าวอื้อฉาว ได้สั่งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ฉีดวัคซีนล็อตเดียวกับวิซคาร์รา ให้ยื่นหนังสือลาออก และในเวลาเดียวกัน เริ่มมีการสอบสวนไล่ล่าหาตัวเจ้าหน้าที่ที่แอบฉีดวัคซีนเมื่อเดือนกันยายนกันแล้ว รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ ออสการ์ อูการ์เต เป็นผู้ที่เปิดเผยข้อมูลเหล่านี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี ซากัสติ ทวีตว่า ระหว่างที่อดีตประธานาธิบดี วิซคาร์รา ยังครองตำแหน่งนั้น เปรูได้รับวัคซีนพิเศษ 2,000 โดสจากค่ายซิโนฟาร์มของจีน เพื่อการทดลอง แต่มีการนำไปฉีดให้เจ้าหน้าที่อาวุโส
เปรูเพิ่งเริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยฉีดวัคซีนให้เฉพาะในส่วนของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หลังได้รับวัคซีนส่วนแรกจำนวน 3 แสนโดสจากซิโนฟาร์ม เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์
สำหรับการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนทั่วไปนั้น คาดว่า จะเริ่มในเดือนกรกฎาคม โดยเปรูจะได้รับวัคซีนจำนวน 10 ล้านโดส โดยตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า เปรูมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 1.2 ล้านคน และเสียชีวิต 43,491 คน
ก่อนหน้านี้ แพทย์และพยาบาลของเปรูได้ออกมาประท้วง เนื่องจากไม่อยู่ในกลุ่มแรกที่จะได้ฉีดวัคซีนของซิโนฟาร์ม โดยช่วงที่ผ่านมามีแพทย์ 306 คน และพยาบาล 125 คนเสียชีวิต และแพทย์และพยาบาลอีกกว่า 20,000 คน ติดโควิด
กีวีล็อกดาวน์โอ๊คแลนด์หลังพบไวรัสกลายพันธุ์เคสแรก
นิวซีแลนด์เริ่มล็อกดาวน์เมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ เป็นเวลา 3 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษครั้งแรก โดยนายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น สั่งให้ล็อกดาวน์โอ๊คแลนด์ เป็นเวลา 72 ชั่วโมง เริ่มจากวันจันทร์ (15) หลังพบสมาชิกครอบครัวเดียวกัน 3 คน ติดโควิด โดย 2 ใน 3 พบเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษที่แพร่เชื้อได้เร็วขึ้น ส่วนอีกคนกำลังรอผลการตรวจ
เจ้าหน้าที่เผยว่า ผลการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดครอบครัวนี้ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทำให้คาดได้ว่า อาจยุติมาตรการล็อกดาวน์ได้โดยเร็ว กระนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่แน่ใจว่า ไวรัสกลายพันธุ์นี้เข้าสู่ประเทศได้อย่างไร
แอชลีย์ บลูมฟิลด์ อธิบดีกรมสุขภาพของนิวซีแลนด์ แถลงว่า โฟกัสเบื้องต้นอยู่ที่สถานที่ทำงานของ 1 ใน 3 ผู้ติดเชื้อคือ บริษัทที่ให้บริการซักรีดให้สายการบินระหว่างประเทศ
มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้ที่ครอบคลุมประชาชน 2 ล้านคน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน สำหรับนิวซีแลนด์ซึ่งได้รับการยกย่องในการควบคุมโควิด-19 จากตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีเพียง 25 คน จากประชากรทั้งหมด 5 ล้านคน
สำหรับเมืองอื่นๆ นั้น อยู่ภายใต้มาตรการเตือนภัยระดับรองลงมา คือ การบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะ และห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมเกิน 100 คน
ขณะเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศว่า ได้รับวัคซีนล็อตแรกแล้วในวันจันทร์ โดยเป็นวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค จำนวน 60,000 โดส ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบคุณภาพแล้วจะเริ่มฉีดให้เจ้าหน้าที่ควบคุมชายแดนและสถานกักตัวตั้งแต่วันเสาร์ (21)
เตือนมะกัน ‘การ์ดอย่าตก’ แม้เคสใหม่เริ่มต่ำกว่าแสน
ที่สหรัฐฯ ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า หลังจากเกือบตลอดเดือนธันวาคม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยรอบ 7 วันของสหรัฐฯ อยู่ที่สูงกว่า 200,000 คนต่อวัน และเพิ่มเป็น 250,000 คนต่อวัน ในเดือนมกราคม ปรากฏว่า เวลานี้ตัวเลขเคสใหม่รายวันได้ลดลงต่ำกว่า 100,000 คน เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12) และยังคงต่ำกว่า 100,000 คนอีกในวันเสาร์ (13)
อย่างไรก็ตาม พญ.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ ชี้ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ที่ราว 100,000 คน และเสียชีวิต 1,500-3,500 คน ซึ่งถือว่า มากกว่าช่วงฤดูร้อนกว่า 2 เท่าตัว ดังนั้น ประชาชนจึงยังคงต้องสวมหน้ากากและปฏิบัติตามมาตรการจำกัดเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาต่อไป รวมทั้งเร่งรัดการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด
ข้อมูลของ จอห์น ฮอปกินส์ ยังระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์เพิ่มเป็นกว่า 5,400 คน
วาเลนสกีสำทับว่า ขณะนี้พบไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ที่พบในอังกฤษในกว่า 30 รัฐ จึงมีแนวโน้มว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอเมริกาจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป
ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในอเมริกาล่าสุดอยู่ที่กว่า 27.5 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 484,000 คน
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
