ยอดผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 ทั่วโลก เกิน 18,000 คนเป็นครั้งแรกในวันพุธ (27 ม.ค.) ข้อเตือนจำล่าสุดในผลกระทบหายนะของโรคระบาดใหญ่ แม้รัฐบาลชาติต่างๆ ยกระดับความเข้มข้นของข้อจำกัดทั้งหลายในความพยายามสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ ที่มีความน่ากังวลมากกว่าตัวดั้งเดิม
ในขณะที่วัคซีนถูกมองว่าเป็นความหวังที่แท้จริงเพียงความหวังเดียว ในโอกาสกลับสู่วิถีชีวิตปกติบางรูปแบบ กลับมีข้อพิพาทปะทุขึ้นระหว่างสหภาพยุโรปกับบริษัทยาแอสตราเซเนกา เกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีน
ส่วนที่เลบานอน ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจกับบรรดาผผู้ประท้วงต่อต้านล็อกดาวน์ 3 คืนติด ไม่กี่วันหลังเกิดเหตุความรุนแรงคล้ายกันในเนเธอร์แลนด์ ระหว่างการชุมนุมต่อต้านคำสั่งเคอร์ฟิวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
ด้วยความกังวลต่อสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าเดิม รัฐบาลประเทศต่างๆ ได้เปิดตัวข้อจำกัดด้านการดินทางต่างๆ นานาในวันพุธ (27 ม.ค.)
ฟินแลนด์ แบนการเดินทางทั้งหมดยกเว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ ส่วนฟินแลนด์แถลงจะปิดชายแดนไม่ต้อนรับนักเดินทางต่างชาติเกือบทั้งหมดตั้งแต่วันศุกร์ (29 ม.ค.) เป็นต้นไป
โปรตุเกส ระงับทุกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกจากบราซิล ดินแดนที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ตัวหนึ่ง ส่วนอิสราเอลปิดพรมแดนทางภาคพื้นที่ติดกับอียิปต์ และจอร์แดน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากองค์การอนามัยโลกเตือนว่าสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบในสหราชอาณาจักร และแอฟริกาใต้ ได้แพร่ระบาดสู่ชาติอื่นๆ หลายสิบประเทศแล้ว
สหราชอาณาจักร ชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงสุดในยุโรป ในวันพุธ (27 ม.ค.) แถลงกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการกักกันโรคในโรงแรม บังคับใช้กับพลเมืองและผู่มีถิ่นพำนักในสหราชอาณาจักร ที่เดินทางกลับมาจาก 22 ประเทศ “ที่มีความเสี่ยงสูง”
ปรีติ ปาเตล รัฐมนตรีมหาดไทยของสหราชอาณาจักร เผยว่า บุคคลเหล่านี้ที่บินกลับมาต้องเข้ารับการกักกันโรคตามโรงแรมต่างๆเป็นเวลา 10 วัน โดยออกค่าใช้จ่ายเอง
เวลานี้โรคระบาดใหญ่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้วราว 2.2 ล้านคน จากผู้ติดเชื้อสะสมที่พุ่งเกิน 100 ล้านคนไปเมื่อวันอังคาร (26 ม.ค.) นับตั้งแต่มันอุบัติขึ้นครั้งแรกในจีน ช่วงปลายปี 2019
กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เปิดเผยข่าวดีเล็กๆ ในวันพุธ (27 ม.ค.) ประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ เพิ่มเติม โดยอ้างสถานการณ์สาธารณสุขที่ค่อยๆ ดีขึ้น แต่มาตรการปิดธุรกิจและห้ามการรวมตัวของประชาชนยังคงเป็นกุญแจสำคัญของยุทธศาสตร์ต่างๆ นานาของรัฐบาล
ชาวเปรูราว 16 ล้านคน มีกำหนดเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ 2 สัปดาห์ ในช่วงปลายเดือนมกราคม ส่วนฝรั่งเศสกำลังพิจารณาล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 3 พร้อมกับเลื่อนเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ออกไปจนถึงเดือนกรกฎาคม
(ที่มา : เอเอฟพี)