ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (12 ม.ค.) ปฏิเสธรับผิดชอบใดๆ ต่อเหตุการณ์บรรดาผู้สนับสนุนของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดขึ้น ระบุคำปราศรัยของเขาก่อนเกิดเหตุเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว พร้อมเย้ยไม่หวั่นถูกถอดถอนตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 เชื่อสุดท้ายแล้วมันจะกลับมาไล่ล่า “โจ ไบเดน”
ทรัมป์ ประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คำปราศรัยหาเสียงก่อนเหตุจู่โจมเมื่อวันพุธ (6 ม.ค.) ซึ่งเขาเร่งเร้าพวกผู้สนับสนุนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภาและสู้ ได้รับการวิเคราะห์จากคนอื่นๆ ที่ไม่เอ่ยนามซึ่งคนเหล่านั้นเชื่อว่า “มันมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง”
“ถ้าคุณอ่านคำปราศรัยของผม สิ่งที่ผมพูดนั้นมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง” ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวที่ฐานทัพร่วมแอนดรูว์ส เมื่อถูกถามว่าเขาจะรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ ต่อเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 6 มกราคม ซึ่งบรรดาผู้สนับสนุนของทรัมป์บุกจู่โจมอาคารรัฐสภา ระหว่างที่มีสมาชิกสภาคองเกรส และไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีของเขาอยู่ภายใน
“พวกเขาวิเคราะห์คำปราศรัยของผมและคำพูดของผม ย่อหน้าสุดท้าย ประโยคสุดท้าย และทุกๆ คนคิดว่ามันมีความเหมาะสมแล้ว” ทรัมป์บอกก่อนมุ่งหน้าไปยังเมืองอะลาโม รัฐเทกซัส เพื่อไปเยือนและเซ็นชื่อบนกำแพงตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโก
ความเห็นในวันอังคาร (12 ม.ค.) ถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันพุธที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้เผยแพร่วิดีโอเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) ประณามเหตุรุนแรง แต่เน้นย้ำไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้ง
สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีแผนถอดถอนทรัมป์ในวันพุธ (13 ม.ค.) ยกเว้นแต่เขาจะยอมลาออกหรือถูกเขี่ยพ้นตำแหน่งก่อนหน้านี้ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีคนเดียวในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ที่ถูกถอดถอนถึง 2 ครั้ง
บรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตบอกว่า การที่ทรัมป์ออกมาแก้ตัวคำพูดและการกระทำของตนเอง เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่ง “การที่ทรัมป์ดูไม่สำนึกผิดเลยในวันนี้ ทำให้ชัดเจนว่าจำเป็นต้องใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดถอนเขา” ดาเนียล โกลด์แมน ที่ปรึกษาเสียงข้างมากในกระบวนการไต่ส่วนถอดถอนครั้งแรกของสภาผู้แทนราษฎร เขียนบนทวิตเตอร์
“ควรเร่งกระบวนการถอดถอน และรัฐมนตรีควรคิดให้หนักว่าจะสนับสนุนความพยายามของทรัมป์ ล้มผลเลือกตั้ง ยุยงปลุกปั่นและก่อจลาจลที่อาคารรัฐสภาหรือไม่” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ กล่าวในวันอังคาร (12 ม.ค.) ว่าไม่กังวลกับบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ซึ่งเปิดทางให้คณะรัฐบาลของเขาถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่ง แม้ว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่เดโมแครตครองเสียงข้างมาก กำลังผลักดันเดินหน้าญัตติหนึ่งซึ่งกดดันให้ ไมค์ เพนซ์ ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25
“บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ไม่ก่อความเสี่ยงอะไรกับผมเลย” ทรัมป์กล่าวต่อหน้าส่วนหนึ่งของกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกในเทกซัส อันเป็นสัญลักษณ์นโยบายคนเข้าเมืองอันเข้มงวด ที่เขาผลักดันมาตลอดในช่วงเวลา 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง
นับตั้งแต่บรรดานักเคลื่อนไหวต้องการรักษาเก้าอี้ผู้นำให้ทรัมป์ บุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม สมาชิกพรรคเดโมแครตเร่งมือหาหนทางต่างๆ ในการถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่ง ก่อนพิธีสาบานตนของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน
นอกเหนือจากผลักดันเดินหน้าใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 แล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็กำลังดำเนินการร่างบทบัญญัติแห่งการถอดถอน (Article of Impeachment) ด้วยอีกทางหนึ่ง
ทรัมป์ บอกว่าการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ในแนวทางใหม่นี้ “จะย้อนกลับมาไล่ล่า โจ ไบเดน และรัฐบาลของไบเดน”
“การถอดถอนจอมปลอม คือการหวนล่าแม่มดครั้งใหญ่ที่สุดและเลวทรามที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศของเรา และก่อควาามโกรธแค้น แตกแยกและเจ็บปวดอย่างมหาศาล รุนแรงกว่าที่คนทั้งหมดจะเข้าใจ ซึ่งอันตรายมากต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เปราะบางอย่างมากเช่นนี้” ทรัมป์กล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)
