เอเจนซีส์ - สื่อญี่ปุ่นแย้มรัฐบาลเตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มใน 3 จังหวัดเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่อังกฤษเร่งรัดโครงการฉีดวัคซีนท่ามกลางจำนวนผู้เสียชีวิตที่พุ่งขึ้นทำสถิติและแนวโน้มที่โรงพยาบาลบางแห่งกำลังจะขาดแคลนออกซิเจน ด้าน WHO เตือนโครงการฉีดวัคซีนของประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังไม่สามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในระดับที่หยุดยั้งโควิด-19 ได้ภายในปีนี้
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันอังคาร (12 ม.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ได้แจ้งต่อที่ประชุมผู้บริหารพรรครัฐบาลว่า จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโงะ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19 โดยอาจมีการประกาศในวันพุธ (13) แหล่งข่าววงในยังเผยว่า รัฐบาลอาจพิจารณาเพิ่มจังหวัดไอจิและกิฟุด้วย
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มอีก 5 จังหวัด หลังจากที่ซูงะถูกกดดันให้ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนาน 1 เดือนในโตเกียวและ 3 จังหวัดใกล้เคียงจนถึงวันที่ 7 เดือนหน้านั้น จะทำให้มาตรการนี้ครอบคลุมประชากรถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด 126 ล้านคน
คัตสึโนบุ คาโตะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหัวหน้าโฆษกรัฐบาลไม่ได้ยืนยันรายงานข่าวนี้ โดยกล่าวเพียงว่า รัฐบาลจะพิจารณามาตรการต่างๆ เพื่อรับมือสถานการณ์ในโอซากาอย่างเร่งด่วน
ภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีสามารถประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะให้อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการขอให้ประชาชนและธุรกิจจำกัดการเคลื่อนย้ายและการทำงาน
การสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยเกียวโดและเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (10) พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 79% เห็นว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในโตเกียวของซูงะสายเกินไป
วันศุกร์ที่ผ่านมา (8) จำนวนผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมงของญี่ปุ่นทำสถิติสูงสุดที่ 7,882 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 300,000 คน
ทางด้านไต้หวัน ทางการรายงานว่า พบการติดเชื้อในท้องถิ่นครั้งแรกนับจากวันที่ 22 ธันวาคม โดยเป็นแพทย์ที่รักษาผู้ติดเชื้อ กับแฟนสาวซึ่งเป็นพยาบาล
ก่อนหน้าปลายเดือนที่แล้ว ไต้หวันไม่พบการระบาดในท้องถิ่นนับจากวันที่ 12 เมษายน มาตรการป้องกันแต่เนิ่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพยังทำให้ไต้หวันควบคุมการระบาดอยู่หมัด นับจนถึงตอนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 839 คน และเสียชีวิตแค่ 7 คน
อย่างไรก็ดี เฉิน สือจง รัฐมนตรีสาธารณสุข แสดงความกังวลต่อกรณีผู้ติดเชื้อล่าสุด และเสริมว่า ผู้สัมผัสกับผู้ป่วย 464 คนที่โรงพยาบาลได้รับการตรวจแล้วและผลออกมาเป็นลบทั้งหมด แต่ยังมีอีก 42 คนที่ผลตรวจยังไม่ออก โดยจะมีการตรวจเจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาลอีกครั้งภายใน 3 วัน
ทางด้านอังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แถลงวันจันทร์ (11) ว่า อังกฤษกำลังเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทำสถิติและโรงพยาบาลบางแห่งใกล้ขาดแคลนออกซิเจน
คริส วิตตี้ ประธานที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลยังเตือนว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า อังกฤษจะเผชิญช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในแง่จำนวนผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 32,000 คนเทียบกับ 18,000 คนในช่วงพีคของการระบาดรอบแรกเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว
ไวรัสกลายพันธุ์ที่พบในอังกฤษซึ่งสามารถระบาดเร็วขึ้นทำให้บางพื้นที่ของลอนดอนมีผู้ติดเชื้อถึงระดับ 1 ใน 20 สร้างภาระหนักแก่บริการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) โรงพยาบาลมากมายมีคนไข้ล้นมือ
จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรล่าสุดอยู่ที่กว่า 81,000 คน สูงสุดอันดับ 5 ของโลก และผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 3 ล้านคน
อังกฤษพยายามต่อสู้กับโรคระบาดโดยมีเป้าหมายทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติในระดับหนึ่งภายในฤดูใบไม้ผลิ โดยการเร่งรัดฉีดวัคซีนให้ประชาชนราว 15 ล้านคนภายในกลางเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม ซุมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนเมื่อวันจันทร์ว่า โครงการฉีดวัคซีนทั่วโลกจะยังไม่สามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ถึงระดับที่หยุดยั้งไวรัสโคโรนาได้ภายในปีนี้ พร้อมย้ำความจำเป็นในการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัยต่อไป
ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วกว่า 90 ล้านคน และเสียชีวิตใกล้ถึง 2 ล้านคน