ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันจะปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ในวอชิงตัน ในวันพุธ (6 ม.ค.) ณ ที่ชุมนุมใหญ่ รวมตัวประท้วงคัดค้านการลงมติของรัฐสภา ซึ่งจะมีขึ้นในวันเดียวกันเพื่อรับรองชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน
“ผมจะปราศรัยกับเวทีชุมนุม SAVE AMERICA RALLY ในวันพรุ่งนี้ ตอน 11.00 น.ตามเวลาตะวันออก (ตรงกับเมืองไทย 23.00 น.)” ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์ หลังจากเขายังปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ แม้ศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้วก็ตาม
“มากันตั้งแต่เนิ่นๆ” ทรัมป์ระบุ พร้อมเร่งเร้าต่อว่า มีแนวโน้มว่าจะมี “ฝูงชนขนาดใหญ่!” เข้าร่วมชุมนุมใกล้ทำเนียบขาว
ในส่วนของ ไบเดน ก็จะมีการแถลงของตนเองเช่นกันในวันพุธ (6 ม.ค.) จากบ้านพักในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ หลังเสร็จสิ้นการประชุมกับคณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ
ทรัมป์ ยังคงยืนกรานปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้ง พร้อมย้ำคำกล่าวหาโดยปราศจากหลักฐานซ้ำๆ ว่ามีการโกงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในรัฐต่างๆ ที่เขาพ่ายแพ้อย่างฉิวเฉียด
แม้หลายศาลได้ตีตกความพยายามยื่นคัดค้านทางกฎหมายจากทีมงานของทรัมป์ แต่เขาประสบความสำเร็จในการหว่านเมล็ดพืชแห่งความสงสัยต่อผลการเลือกตั้งในหมู่ผู้มีสิทธิออกเสียงรีพับลิกัน โดยจากผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าผู้มีสิทธิออกเสียงรีพับลิกันมากกว่าครึ่งเชื่อว่าทรัมป์เป็นฝ่ายชนะหรือไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วใครเป็นผู้ชนะ
ความสับสนดังกล่าวสะท้อนได้จากบรรดาผู้สนับสนุนของทรัมป์หลายคนที่เริ่มมารวมตัวกันใกล้ทำเนียบขาวในวันอังคาร (5 ม.ค.) ในการเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่ทรัมป์เรียกว่าการประท้วงใหญ่ในวันพุธ (6)
ด้วยที่พวกเขาเชื่อตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์ว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้มีการโกงอย่างมโหฬาร หลายคนจึงตั้งความหวังว่าอาจมีเซอร์ไพรส์ในนาทีสุดท้าย ซึ่งอาจช่วยให้ทรัมป์อยู่ในอำนาจเลยจากวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ ไบเดน มีกำหนดเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง
ร้านค้าและภาคธุรกิจต่างๆ ในย่านกลางกรุงวอชิงตันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้นำแผ่นกระดานไม้มาปิดประตูและหน้าต่างร้าน ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงซ้ำรอยกับที่เคยเกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้ ระหว่างการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทางผิวสีเมื่อปีที่แล้ว
การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จะเป็นประธานการประชุมร่วมของสภาคองเกรสในวันพุธ (6 ม.ค.) เพื่อรับรองคะแนนนโหวตของคณะผู้เลือกตั้ง ที่ลงมติยืนยันให้ ไบเดน เป็นผู้ชนะในศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว ด้วยคะแนน 306 ต่อ 232 เสียง
ในขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์ ชุมนุมประท้วงบนท้องถนน สมาชิกรีพับลิกันหลายคนทั้งในสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา ได้ส่งสัญญาณว่าจะคัดค้านการรับรองคะแนนโหวตในรัฐสมรภูมิบางแห่งที่ ไบเดน เป็นฝ่ายชนะ ก่อความเป็นไปได้ว่ากระบวนการรับรองชัยชนะในครั้งนี้อาจลากยาวเข้าสู่ช่วงค่ำคืน
อย่างไรก็ตาม โอกาสประสบผลสำเร็จของกลยุทธ์ดังกล่าวแทบเป็นศูนย์ เนื่องจากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และมีเพียงสมาชิกรีพับลิกันแค่ราวสิบกว่าคนในวุฒิสภา ที่จะโหวตคัดค้านการรับรอง