พยาบาลประจำห้องไอซียูรายหนึ่ง เป็นบุคคลแรกในสหรัฐฯ ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคเมื่อวันจันทร์ (14 ธ.ค.) เรียกมันว่า “สัญญาณแห่งการเยียวยากำลังมา” แม้ขณะเดียวกันจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอเมริกายังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดขยับขึ้นเหนือ 300,000 รายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แซนดรา ลินด์ซีย์ ซึ่งทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักหลายรายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เข้ารับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์การแพทย์ลอง ไอส์แลนด์ ยิววิช ในเขตควีนส์ ของนิวยอร์ก ซิตี ซึ่งช่วงต้นๆ เคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ โดยเธอได้รับเสียงปรบมือระหว่างการฉีดวัคซีนที่มีการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ และมี แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ร่วมเป็นสักขีพยาน
“ไม่รู้สึกว่ามันมีความแตกต่างจากการฉีดวัคซีนอื่นๆ” ลินด์ซีย์กล่าว “วันนี้ฉันรู้สึกมีความหวัง โล่งใจ ฉันรู้สึกว่าการเยียวยากำลังมาถึง ฉันหวังว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดอย่างมากในประวัติศาสตร์ของเรา ฉันต้องการปลูกฝังความเชื่อมั่นของประชาชนว่าวัคซีนปลอดภัย”
คูโอโม ทวีตภาพ ลินด์ซีย์ สวมหน้ากากและจ้องมองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ตอนที่แพทย์ฉีดวัคซีนเข้าที่แขนของเธอ และบอกว่าเธอเป็นชาวอเมริกาคนแรกที่ได้รับวัคซีน “นี่แหละ คือคุณสมบัติของฮีโร่”
ไม่นานหลังจาก ลินดซีย์เข้ารับการฉีดวัคซีน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เขียนบนทวิตเตอร์วา “ฉีดวัคซีนคนแรกไปแล้ว ขอแสดงความยินดีกับสหรัฐฯ! ของแสดงความยินดีกับทั่วโลก!”
ศูนย์การแพทย์ลอง ไอส์แลนด์ ยิววิช ซึ่งบริหารงานโดยนอร์ทเวลล์ เฮลท์ ระบบสาธารณสุขใหญ่ที่สุดของนิวยอร์ก เป็นหนึ่งในสถานพยาบาลจำนวนมากทั่วสหรัฐฯ ที่ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ชุดแรกๆของประเทศ นอกการทดลองทางคลินิก ในวันจันทร์ (14 ธ.ค.)
วัคซีน ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ อิงก์ และไบโอเอ็นเทค พันธมิตรจากเยอรมนี ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินจากคณะควบคุมกฎระเบียบกลางสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์(11ธ.ค.) หลังพบว่ามันมีประสิทธิภาพถึง 95% ในการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในการทดลองทางคลินิกกลุ่มใหญ่
มันมาพร้อมกับความปลดเปลื้องที่น่ายินดี เนื่องจากขณะเดียวกันจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ พุ่งผ่านหลักชัยอันน่าเศร้า 300,000 คนในวันจันทร์ (14 ธ.ค.) ในขณะที่จำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแตะระดับสุงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และจนถึงตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 16 ล้านคนแล้ว
จากการนับของสำนักข่าวรอยเตอร์ยังพบด้วยว่า สหรัฐฯ รายงานมีผู้เสียชีวิตโดยเฉลี่ย 7 วันหลังสุด อยู่ที่ 2,462 รายต่อวัน สูงสุดนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น
วัคซีนชุดแรก 2.9 ล้านโดส เริ่มลำเลียงสู่ศูนย์แจกจ่ายต่างๆ ทั่วประเทศในวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) หรือราว 11 เดือน หลังสหรัฐฯยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกของประเทศ
การลำเลียงวัคซีนโควิด-19 ชุดแรกในสหรัฐฯ เดินทางออกจากโรงงานของไฟเซอร์ ในคาลามาซู รัฐมิชิแกน เมื่อวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) โดยมันถูกบรรจุใส่หีบห่อขึ้นรถบรรทุก พร้อมใส่น้ำแข็งแห้งในคอนเทนเนอร์บรรจุ เพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับ -70 องศาเซลเซียส วัคซีนเหล่านี้ถูกลำเลียงไปยังเครื่องบินของบริษัทยูพีเอสและเฟดเอ็กซ๋ ที่จอดรออยู่ ณ ลานบินในแลนซิงและแกรนด์ ราปิดส์ เพื่อบินไปยังศูนย์สินค้าในลุยส์วิลล์และเมมฟิส สำหรับเริ่มโครงการสร้างภูมิคุ้มกันระดับชาติ ซึ่งยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ไล่ตั้งแต่เคนทักกีจนถึงเทนเนสซี วัคซีนถูกโหลดขึ้นเครื่องบินและรถบรรทุก เพื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆที่เตรียมไว้สำหรับการฉีดวัคซีน 145 แห่งแรก จากทั้งหมด 636 แห่งทั่วประเทศ ส่วนการขนส่งวัคซีนชุดที่ 2 และ 3 มีกำหนดลำเลียงไปยังจุดอื่นๆ ที่เหลือ ในวันอังคาร (15 ธ.ค.) และวันพุธ (16 ธ.ค.) ต่อไป
ผู้ว่าการรัฐและดินแดนต่างๆ 26 แห่ง มีแผนใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เข้าช่วยปฏิบัติการกระจายวัคซีน ไล่ตั้งแต่ช่วยแยกวัคซีนเป็นแพ็คเกจขนาดเล็กลง ไปจนช่วยในการขนส่ง
พวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและบรรดาผู้พักอาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชรา จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนในปริมาณ 2 โดส ห่างกันโดสละ 3 สัปดาห์ จากนั้นคิวต่อไปจะเป็นแรงงานต่างๆ ที่มีความจำเป็น ซึ่งแต่ละรัฐจะเป็นผู้กำหนด และคนชราที่มีโรคประจำตัว
นายแพทย์ แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อระดับสูงของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับเอ็มเอสเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ (14 ธ.ค.) คาดหมายว่าอเมริกันชนที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงสูงต่างๆ จะได้รับวัคซีนในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม หรือไม่ก็ช่วงต้นเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่ามาตรการสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคมจะยังคงมีความจำเป็นต่อไปอีกหลายเดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
นายแพทย์ มอนเซฟ สลาอุย หัวหน้าโครงการ Operation Warp Speed กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ในวันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) แสดงความหวังว่าสหรัฐฯ จะสามารภแจกจ่ายวัคซีนราวๆ 40 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชาชน 20 ล้านคน ในช่วงสิ้นเดือนนี้
วัคซีนเหล่านั้นรวมไปถึงวัคซีนจากทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นา อิงค์ โดยในส่วนของวัคซีนโมเดอร์นา ทางคณะที่ปรึกษาอิสระของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ มีกำหนดประชุมพิจารณากันในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินไม่นานหลังจากนั้น
(ที่มา : รอยเตอร์)