เตหะรานจัดพิธีศพนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ระดับสูงของตน ระหว่างชั่งใจวิธีการและช่วงเวลาในการตอบโต้การลอบสังหารครั้งนี้ ซึ่งเห็นกันว่า เป็นฝีมืออิสราเอลโดยมีสหรัฐฯรู้เห็นเป็นใจ โดยที่หนังสือพิมพ์อนุรักษนิยมสุดโต่งของอิหร่านเรียกร้องให้ล้างแค้นด้วยการถล่มเไฮฟา เมืองท่าสำคัญของอิสราเอล ขณะที่สื่อยิวระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นการส่งข้อความถึงไบเดนว่า อิสราเอลไม่เห็นด้วยกับการฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน
การสังหารมอห์เซน ฟาครีซาเดห์ ซึ่งอิสราเอลขนานนามว่า “บิดา” โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้สถานการณ์ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล ซึ่งประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีของอิหร่าน กล่าวหาว่า ทำตัวเป็น “มือปืนรับจ้าง” ของอเมริกา ตึงเครียดหนักหน่วงขึ้นมาอีกครั้ง
ฟาครีซาเดห์เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ (27 พ.ย.) หลังถูกกลุ่มมือสังหารยิงถล่มรถยนต์นอกกรุงเตหะราน โดยมีการจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติเมื่อวันจันทร์ (30)
ในวันอาทิตย์ (29) รัฐสภาอิหร่านเรียกร้องให้ระงับการยินยอมให้คณะเจ้าหน้าที่นานาชาติเข้าตรวจสอบสถานที่พัฒนานิวเคลียร์ในอิหร่าน ส่งสัญญาณการถอยห่างออกไปอีกจากพันธกรณีหลักในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ซึ่งอิหร่านทำไว้กับมหาอำนาจโลก แล้วถูกสหรัฐฯโดยคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ ฉีกทิ้งไปก่อนหน้านี้
ไม่เพียงเท่านั้น มอห์เซน เรซาอี ประธานสภาผู้ชี้ขาด ของอิหร่าน ระบุด้วยว่า เตหะรานควรพิจารณาถอนตัวจากสนธิสัญญานานาชาติว่าด้วยการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์เสียเลย
สำหรับรูฮานี ซึ่งมองกันว่าเป็นฝ่ายสายกลางในอิหร่านนั้น ประกาศว่าอิหร่านจะแก้แค้นการลอบสังหารฟาครีซาเดห์ “เมื่อถึงเวลา” และจะไม่รีบร้อนเข้าไปติดกับ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะอำลาทำเนียบขาวในเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือน และว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้สัญญาว่า จะฟื้นการแก้ไขปัญหาด้วยวิถีทางการทูตกับอิหร่าน หลังจากทรัมป์ฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์ 2015 ไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วพร้อมฟื้นมาตรการแซงก์ชันเตหะราน
ด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศว่า ผู้สังหารฟาครีซาเดห์จะถูกลงโทษ ส่วนโมฮัมหมัด-บาเกอร์ กาลิบาฟ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้ “ตอบโต้อย่างแข็งกร้าว” เพื่อป้องปรามและล้างแค้นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารฟาครีซาเดห์ วัย 59 ปี ที่ถูกวอชิงตันแซงก์ชันในปี 2008 โดยกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวพันกับกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่าน
เคย์ฮาน หนังสือพิมพ์อนุรักษนิยมสุดโต่งของอิหร่าน ก็ออกมาเรียกร้องให้โจมตีเมืองท่าไฮฟาของยิว โดยควรต้องทำให้มีคนตายจำนวนมากเพื่อล้างแค้นและป้องปราม หากพิสูจน์ได้ว่า อิสราเอลอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารฟาครีซาเดห์
ทั้งนี้ หากอิหร่านโจมตีเมืองไฮฟาจริง ย่อมหนีไม่พ้นที่อิสราเอลจะตอบโต้ทันควันและทำให้ความขัดแย้งขยายวงไปทั่วตะวันออกกลาง
วันจันทร์ (30 พ.ย.) สถานีเพรสส์ ทีวีของอิหร่านรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่า อาวุธที่พบในสถานที่ลอบสังหารฟาครีซาเดห์มีโลโก้และสเปกของอุตสาหกรรมการทหารอิสราเอลติดอยู่
ทว่า อีไล โคเฮน รัฐมนตรีข่าวกรองอิสราเอลให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นโดยยืนยันว่า ไม่รู้ว่า ใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
ฮาเรตซ์ หนังสือพิมพ์ของอิสราเอล ชี้ว่า การสังหารฟาครีซาเดห์เชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับการเข้ารับตำแหน่งของไบเดน เพื่อแสดงให้เห็นว่า อิสราเอลไม่เห็นด้วยกับแผนการของว่าที่ผู้นำใหม่ของอเมริกาในการฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยและที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ เตรียมเยือนซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ในสัปดาห์นี้เพื่อเดินหน้าข้อตกลงทางการทูตในตะวันออกกลางก่อนที่ทรัมป์จะพ้นตำแหน่ง รวมถึงแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างกาตาร์กับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีฯ
เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ บาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ประกาศปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลสู่ระดับปกติ ภายใต้ “ข้อตกลงอับราฮัม” ที่คุชเนอร์ผลักดัน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกังวลกับอิหร่าน
วอลล์สตรีท เจอร์นัลยังตั้งข้อสังเกตว่า ทีมเยือนตะวันออกกลางของคุชเนอร์ครั้งนี้ยังประกอบด้วยไบรอัน ฮุก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในนโยบายอิหร่าน จวบจนกระทั่งเขาลาออกจากคณะบริหารของทรัมป์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)