xs
xsm
sm
md
lg

หมอใหญ่เตือนสหรัฐฯกำลังจะเจอระบาดแรงสุดๆ ติดเชื้อมีหวังพุ่ง 10 เท่าหลังเทศกาล ‘ขอบคุณพระเจ้า’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 25 พ.ย. 2020) นักเดินทางรอเช็กอินเที่ยวบินของพวกเขาที่ท่าอากาศยานลาการ์เดีย ของนครนิวยอร์ก ทั้งนี้ยังคงมีผู้คนเป็นล้านๆ ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าปีนี้  ทำให้พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนภัยว่า สหรัฐฯจะต้องเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงขึ้นมากๆ ในระยะไม่กี่สัปดาห์จากนี้ไป
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชั้นนำหลายคนของสหรัฐฯ เตือนคนอเมริกันเตรียมพร้อมรับโรคโควิด-19 ระบาดแบบ “พุ่งแรงสุดๆ” ซึ่งจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จากการที่มีผู้คนนับล้านเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้า ขณะเดียวกันก็ระบุว่าวัคซีนป้องกันเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ได้จริงๆ หากเริ่มฉีดให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุดก่อน และยังปฏิบัติตามคำแนะนำในการสวมหน้ากากและเว้นระยะห่าง ก่อนที่ประชาชนส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนซึ่งคาดว่า อย่างเร็วที่สุดคือไตรมาส 2 ปีหน้า

อเมริการักษาตำแหน่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดในโลกมาอย่างยาวนาน แถมคณะบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังเผยแพร่ข้อมูลขัดแย้งชวนสับสนเกี่ยวกับการสวมหน้ากาก การเดินทาง และอันตรายจากไวรัสโคโรนา

เมื่อวันอาทิตย์ (29 พย.) นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดูได้รับความเชื่อถือมากที่สุดของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “สเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน” ของโทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็น โดยเตือนว่า เกือบจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในอเมริกาจะพุ่งทะยานขึ้นอีกจากการที่ผู้คนนับล้านออกเดินทางในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าจนทำให้สนามบินต่างๆ ในอเมริกามีนักเดินทางคับคั่งที่สุดนับจากโควิดระบาดเมื่อต้นปี

ฟาวซีสำทับว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจพุ่งสูงขึ้นไปแล้วพุ่งสูงขึ้นไปอีก ในช่วง 2-3 สัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ดี เขาเสริมว่า ยังไม่สายเกินไปที่ประชาชนซึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านหลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าจะสวมหน้ากากป้องกัน เว้นระยะห่างทางสังคม และหลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกับคนจำนวนมาก เพื่อช่วยป้องกันการระบาด

ด้าน พญ.เดบอราห์ เบิร์กซ์ ผู้ประสานงานการรับมือไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว ก็แสดงความกังวลในทำนองเดียวกันระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “เฟซ เดอะ เนชั่น” ของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอสว่า อเมริกากำลังเข้าสู่ช่วงการระบาดหลังวันขอบคุณพระเจ้าที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3, 4 หรือ 10 เท่าตัวทั่วประเทศ

เบิร์กซ์เสริมว่า ผู้ที่เดินทางในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมทั้งต้องตั้งสมมติฐานว่า ตนเองติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการตรวจในสัปดาห์นี้

ด้าน นพ.เจอโรม แอดัมส์ ศัลยแพทย์ใหญ่สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ชัดเจนกับรายการ “ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์” ว่า สถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีกหลายสัปดาห์

ทั้งนี้ จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ อเมริกามีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นทะลุ 200,000 คนครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ (27) และเพิ่มขึ้น 140,651 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงจนถึงเวลา 1.30 น. วันจันทร์ (30) ตามเวลามาตรฐานเมืองกรีนิช รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 13,373,673 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 822 คน รวมเป็น 266,831 คน

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัท ไฟเซอร์ ได้ขนส่งวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาล็อตแรกจากห้องปฏิบัติการในเบลเยียมถึงอเมริกาแล้วเพื่อให้พร้อมสำหรับการแจกจ่ายอย่างรวดเร็วหลังได้รับอนุญาตให้ใช้ฉุกเฉิน ซึ่งคาดว่า อย่างเร็วที่สุดคือในวันที่ 10 ธันวาคม

ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทยาของอเมริกาทั้งคู่ ต่างระบุว่า วัคซีนของพวกตนแต่ละรายมีประสิทธิภาพในการต้านทานไวรัสโคโรนาถึง 95%

ฟาวซี ยอมรับว่า วัคซีนที่ส่มางถึงอเมริกาเป็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” และบอกว่า ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ควรโฟกัสการแจกจ่ายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพและเท่าเทียม โดยมีแนวโน้มว่า บุคลากรทางการแพทย์จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนก่อนปลายเดือนธันวาคม ตามด้วยกลุ่มอื่นๆ ในเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม

ด้าน พลเรือเอก นพ.เบรตต์ จิรัวร์ สมาชิกทีมรับมือไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว ขานรับว่า วัคซีนคือทางออกสำหรับวิกฤตโรคระบาดนี้ ก่อนแสดงความกังวลเช่นเดียวกับฟาวซีและนักวิจัยคนอื่นๆ ว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงอันตรายอย่างแท้จริง โดยมีผู้ป่วยโควิด-19 ถึง 20% ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในโรงพยาบาล

ฟาวซี และจิรัวร์ เตือนว่า ก่อนที่ชาวอเมริกันจำนวนมากจะได้รับการฉีดวัคซีน ประชาชนยังต้องระมัดระวังตัวเอง ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากและการเว้นระยะห่างทางสังคม

จิรัวร์ ระบุว่า กว่าที่ประชาชนส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนก็ต้องรอจนถึงไตรมาส 2 หรือ 3 ปีหน้า อย่างไรก็ดี อเมริกาอาจได้ประโยชน์เร็วกว่านั้นด้วยการฉีดวัคซีนให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุดก่อน ซึ่งจะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จถึง 80%

ล่าสุด ไวรัสโคโรนาทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,453,074 คนทั่วโลกนับจากเริ่มต้นระบาดในจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)

(ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 25 พ.ย. 2020) นักเดินทางพักผ่อนที่พื้นบริเวณจุดรอรับกระเป๋าเดินทาง ณ ท่าอากาศยานลาการ์เดีย ของนครนิวยอร์ก ทั้งนี้ยังคงมีผู้คนเป็นล้านๆ ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุดขอบคุณพระเจ้าปีนี้  ทำให้พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนภัยว่า สหรัฐฯจะต้องเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงขึ้นมากๆ ในระยะไม่กี่สัปดาห์จากนี้ไป

นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่ดูจะได้รับความเชื่อถือมากที่สุดของสหรัฐฯ (ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 17 เม.ย. 2020)
กำลังโหลดความคิดเห็น