xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำ ‘เอเปก’ ออกแถลงการณ์ร่วมสนับสนุน ‘การค้าเสรี-เป็นธรรม’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ออกแถลงการณ์ร่วมวานนี้ (20 พ.ย.) ว่า จะร่วมกันส่งเสริมระบบการค้าเสรีและการลงทุน เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

แถลงการณ์ร่วมจากผู้นำ 21 ประเทศ มีขึ้นภายหลังการประชุมซัมมิตทางไกลของกลุ่มเอเปก ซึ่งมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก

นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน แห่งมาเลเซีย ระบุในงานแถลงข่าวว่า สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาในอดีต “ถูกบดบัง” ด้วยความร้ายแรงของโควิด-19 และด้วยความคาดหมายว่า เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกจะหดตัวราว 2.7% ในปีนี้ จากที่เคยเติบโตได้ถึง 3.6% ในปี 2019 การประชุมเอเปกครั้งนี้จึงมุ่งเน้นไปที่มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดที่ได้ผลและมีราคาจับต้องได้

“การรับมือความสุ่มเสี่ยงทางด้านสุขภาพและผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกโดยรวมคือวาระสำคัญของรัฐสมาชิกเอเปกทุกประเทศในปีนี้” ผู้นำเสือเหลืองระบุ

กลุ่มเอเปกซึ่งมีจีดีพีรวมกันราว 60% ของโลกยังให้คำมั่นว่า “จะหลีกเลี่ยงการก้าวถอยหลังและไม่ใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เพื่อส่งเสริมการเปิดตลาดและพรมแดน”

แถลงการณ์ร่วมของผู้นำเอเปกได้เน้นย้ำถึง “ความสำคัญของบรรยากาศการค้าและการลงทุนที่เสรี, เปิดกว้าง, เป็นธรรม, ไม่มีการแบ่งแยกกีดกัน, โปร่งใส และคาดเดาได้” ว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตท่ามกลางวิกฤตที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่

การประชุมซัมมิตเอเปกเว้นว่างไปนานถึง 2 ปี เนื่องจากชิลีซึ่งเป็นเจ้าภาพในปีที่แล้วเผชิญวิกฤตการเมืองในประเทศ จนต้องขอยกเลิกจัดการประชุมอย่างกะทันหัน

ก่อนหน้านั้น ในการประชุมเอเปกที่ปาปัวนิวกินี เมื่อปี 2018 เหล่าผู้นำก็ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากติดความขัดแย้งเรื่องนโยบายการค้าและการลงทุนระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

แหล่งข่าวซึ่งได้ฟังคำปาฐกถาของ ทรัมป์ ในเวทีเอเปกระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่ยอมรับว่าตัวเองแพ้เลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พ.ย. และปฏิเสธที่จะเริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจสู่มือ โจ ไบเดน เอาแต่พูดถึงประเด็นภายในสหรัฐฯ เสียเป็นส่วนใหญ่ และอ้างถึงความสำเร็จต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่ตนเป็นประธานาธิบดี

นักวิเคราะห์มองว่า คำแถลงครั้งนี้ค่อนข้างผิดฟอร์มของ ทรัมป์ ผู้ซึ่งเคยประณามจีนว่าเป็นต้นตอโควิด-19, ตราหน้าปักกิ่งเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ และสั่งรีดภาษีสินค้าจีนหลายพันล้านดอลลาร์

ทำเนียบขาวระบุว่า ทรัมป์ “ได้ยืนยันเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ที่จะต่อยอดการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 รวมถึงส่งเสริมเสรีภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกด้วยการสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตเข้มแข็ง”

ทรัมป์ และบรรดาผู้นำเอเปกยังให้การรับรองต่อ ‘APEC Putrajaya Vision 2020’ ซึ่งกำหนดให้การค้าที่เสรีและเป็นธรรมคือวาระสำคัญของกลุ่มเอเปกในช่วง 20 ปีข้างหน้า

แม้คณะบริหารของ ทรัมป์ จะยกให้กิจการเอเชีย-แปซิฟิก และการแข่งขันกับจีนเป็นนโยบายหลักด้านการต่างประเทศ ทว่าผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ก็ถูกวิจารณ์เสมอมาว่าทำตัวห่างเหินกับพันธมิตรในเอเชีย

ครั้งล่าสุดที่ ทรัมป์ ร่วมประชุมเอเปกคือ เมื่อปี 2017 และสัปดาห์ที่แล้วเขาก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้นำ 15 ประเทศเอเชีย-แปซิฟิกได้ร่วมลงนามรับรองความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Partnership Agreement - RCEP) จัดตั้งเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลกภายใต้การนำของจีน

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวในเวทีเอเปกเมื่อวานนี้ (20) ว่า จีนพร้อมสนับสนุนการค้าและการลงทุนที่เสรีและเปิดกว้าง ตลอดจนความร่วมมือแบบพหุภาคี นอกจากนี้ ยังรับปากว่าจะ “พิจารณาอย่างจริงจัง” ถึงการเข้าร่วมความตกลงครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership - CPTPP) ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือทางการค้าที่แปรสภาพมาจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership - TPP) ที่ ทรัมป์ นำสหรัฐฯ ถอนตัวออกไปเมื่อปี 2017

ที่มา: รอยเตอร์, เอพี


กำลังโหลดความคิดเห็น