xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: สหรัฐฯสั่งตัด “จีเอสพีไทย” ตอบโต้ความขัดแย้งนำเข้าเนื้อหมู

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี/mgrออนไลน์ - ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงวันศุกร์ (30 ต.ค.) ว่า จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ จีเอสพี กับไทย หลังรัฐบาลไทยล้มเหลวในการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากผู้ผลิตอเมริกัน ส่งผลกระทบมูลค่า 817 ล้านดอลลาร์ต่อสินค้าส่งออกไทย รวมไปถึง มะม่วง สับปะรด อุปกรณ์ตกแต่งเล็บเพื่อความงาม ท่อเหล็ก และอัญมณี
และทางสหรัฐฯจะเริ่มต้นบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.นี้

เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) ว่า ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไลไฮเซอร์ แถลงวันศุกร์ (30 ต.ค.) ว่า

“การตัดสินใจตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ จีเอสพี กับไทยในเรื่องเนื้อหมูของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะเพิ่มการเฝ้าจับตาและการบังคับต่อนโยบายสิทธิพิเศษทางการค้าของเรา (trade preference program)”

นั้นคิดเป็น 1 ใน 6 ของสิทธิพิเศษของไทยที่ได้รับจากโครงการที่เรียกว่า จีเอสพี (GSP: Generalized System of Preferences) หรือ “ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร”

เอเอฟพีรายงานว่า สินค้าไทยที่ได้รับผลกระทบจากการถูกตัดจีเอสพีครั้งนี้ คือ มะม่วง สับปะรด อุปกรณ์ตกแต่งเล็บเพื่อความงาม ท่อเหล็ก และอัญมณี

ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตเนื้อหมูแห่งชาติสหรัฐฯ NPPC (National Pork Producers Council) ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนในปี 2018 เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯมีมาตรการต่อไทย

โดยจีเอสพีจะอนุญาตให้สินค้าปลอดภาษีสามารถเข้าสู่ตลาดอเมริกาสำหรับสินค้า 3,500 ประเภท จาก 119 ชาติทั่วโลก โดยในการแลกเปลี่ยนเพื่อปกป้องสิทธิแรงงาน สิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา และทำให้เกิดความมั่นใจถึง “การเข้าสู่ตลาดอย่างความเท่าเทียมและมีเหตุผล”

ผู้แทนการค้าสหรัฐฯชี้ว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีบางส่วนต่อไทยจากการที่ไทยล้มเหลวในการอนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อหมูจากผู้ผลิตอเมริกัน

ซึ่งความเคลื่อนไหวการตัดจีเอสพีครั้งนี้ ส่งผลมูลค่า 817 ล้านดอลลาร์ต่อสินค้าส่งออกไทย ที่จะเริ่มต้นบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. เนื่องจากขาดความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการให้เหตุผลต่อสหรัฐฯถึงการเข้าสู่ตลาดไทยของผลิตภัณฑ์เนื้อหมูของผู้ผลิตสหรัฐฯถึงแม้จะมีการใช้เวลาหารือในเรื่องนี้มาถึง 12 ปีแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ อ้างอิงจากเว็บไซต์ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พบว่า ทางสำนักงานได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาคมผู้ผลิตเนื้อหมูแห่งชาติสหรัฐฯ NPPC เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ถึงปัญหาการส่งออกเนื้อหมูเข้าสู่ตลาดไทย โดยในหนังสือร้องเรียน ทางสมาคมระบุว่า ไทยไม่เข้ามาตรฐานตามสิทธิที่จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจีเอสพี ที่กำหนดให้ต้องให้การเข้าสู่ตลาดอย่างเท่าเทียม และมีเหตุผล แต่ทางไทยยังคงมีข้อกำหนดมากมายในการจำกัดการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐเข้าสู่ตลาดในประเทศ

ซึ่งในข้อกำหนดการจำกัดยังรวมไปถึงการห้ามนำเข้าเนื้อหมูที่ไม่ผ่านการปรุงสุก ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนต่างๆ ของหมู และห้ามการนำเข้าเนื้อหมูที่ใช้สารเร่งเนื้อแดง (ractopamine)

นอกจากนี้ ในคำร้องที่ยื่นถึงสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ทางผู้ผลิตเนื้อหมูแห่งชาติสหรัฐฯ NPPC ยังชี้ว่ารัฐบาลไทยน้อยครั้งที่จะออกใบอนุญาตการนำเข้าสำหรับเนื้อหมู และมีการขนส่งที่มีจำนวนไม่กี่ครั้งยังมีค่าธรรมเนียมการตรวจสอบที่แพง

เว็บไซต์ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯยังชี้ว่า การพิจารณาถึงสิทธิจีเอสพีของไทยนั้นมีหนังสือร้องเรียนจากสมาพันธ์แรงงานอเมริกันและสภาคองเกรสแห่งองค์กรอุตสาหกรรม AFL-CIO (American Federation of Labor and Congress of Industrial Organizations) ยื่นค้างอยู่ก่อนแล้ว

จากตัวเลขปี 2019 พบว่า ไทยเป็นคู่ค้าในการส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯใหญ่สุดเป็นอันดับที่ 16 โดยมีมูลค่าสินค้านำเข้าจากไทยราว 33.4 พันล้านดอลลาร์ สูงขึ้น 5.0% หรือราว 1.6 พันล้านดอลลาร์ จากปี 2018 โดยสินค้าเครื่องจักรหนักจากไทยเป็นสินค้าที่เข้าสหรัฐฯมากที่สุดในปี 2019 จำนวน 8.4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอันดับ 2 คือ เครื่องจักรไฟฟ้า 7.6 พันล้านดอลลาร์ อันดับ 3 ยาง จำนวน 4.0 พันล้านดอลลาร์ และรถยนต์ จำนวน 1.2 พันล้านดอลลาร์

ซึ่งสินค้าผักผลไม้ไทยในปี 2019 ที่สหรัฐฯนำเข้ามีจำนวน 154 ล้านดอลลาร์ โดยการตัดจีเอสพีที่ถูกประกาศในวันศุกร์ (30 ต.ค.) จะกระทบในส่วนนี้







กำลังโหลดความคิดเห็น