ผู้จัดการรายวัน 360 - “เนลฟี่ สตูดิโอ” ร้านอุปกรณ์ทำเล็บครบวงจร โชว์ศักยภาพศูนย์รวมสินค้าชั้นนำระดับโลก เผยจุดแข็ง House Brand “Nailfie Signature” เติมเต็มช่องว่างตลาดสีทาเล็บไทย เตรียมพร้อมยกระดับตัวเองรับความท้าทายตลาดเล็บโลก หวังเป็นหนึ่งในผู้ชี้ช่องศิลปินเล็บให้เห็นคุณค่าในตัวเอง ต่อยอดเป็นส่วนสำคัญขับเคลื่อนธุรกิจทำเล็บไทยทัดเทียมตลาดโลก
นางสาวอมลณัฐ สิริวัฒน์ธนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนลฟี่ ซัพพลาย จำกัด เปิดเผยว่า “เนลฟี่ ซัพพลาย” เป็นบริษัทค้าส่ง-ปลีกอุปกรณ์ทุกชนิดที่ใช้ในร้านทำเล็บ ที่มีสินค้าที่หลากหลายมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสีเล็บให้เลือกมากกว่า 10,000 เฉดสี มีสต๊อกสีทาเล็บมากกว่า 100,000 ขวด โดยเรามีโชว์รูมชื่อว่า “เนลฟี่ สตูดิโอ” ตั้งอยู่บนชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะสตรีท รัชดา มีพื้นที่มากกว่า 750 ตร.ม. และมีโกดังสินค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม.ในการสต๊อกสินค้า
“เมื่อก่อนนี้ตลาดอุปกรณ์ทำเล็บในประเทศไทยมีขนาดเล็กมาก บีบให้ผู้ประกอบการมีตัวเลือกน้อย ประกอบกับร้านค้าแต่ละร้านจำหน่ายสินค้าในราคาสูง จนทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการต้องดีดตัวสูงตามไปด้วย จึงเกิดแนวคิดในการทำร้านอุปกรณ์ทำเล็บที่มีจุดเด่น “จำหน่ายสินค้าในราคาส่งตั้งแต่ชิ้นแรก” สำหรับกลุ่ม B2B โดยเฉพาะ โดยการเดินหน้าสร้างคอนแทรกต์ส่วนตัวกับโรงงานผลิตไล่ไปถึงบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ นั่นจึงทำให้รากฐานของร้าน “เนลฟี่ สตูดิโอ” มีความแข็งแกร่งด้วยสินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่สินค้าคุณภาพต้นทุนต่ำ ไปจนถึงสินค้าเกรดชั้นนำการันตีแบรนด์ และพร้อมที่จะรองรับตลาดอุปกรณ์ทำเล็บได้ในทุกระดับ”
เนลฟี่ สตูดิโอ เป็นร้านอุปกรณ์ทำเล็บที่มีจุดเด่นในความครบครันและคุ้มค่า จากสินค้าทุก SKU ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนตามเทรนด์ทุกวัน และสามารถรองรับตลาดได้ทุกระดับ พร้อมมีการบริการระหว่างและหลังการขาย พนักงานในร้านทุกคนต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทำเล็บ เข้าใจการแก้ปัญหา รู้จักความเคลื่อนไหวของเทรนด์การทำเล็บ และสามารถอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ เพื่อนำข้อมูลไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์แก่ตัวลูกค้าเองได้
ปัจจุบัน “เนลฟี่ สตูดิโอ” จัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ทำเล็บครบวงจร นำเข้าจากประเทศจีน รวมถึงแบรนด์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ เช่น สีทาเล็บเจล, ไพรเมอร์, เบสโค้ต, ท็อปโค้ต, อุปกรณ์บำรุงและทำความสะอาดเล็บ, สีสำหรับงานเพนต์, ตะไบแต่งเล็บ, อุปกรณ์ต่อเล็บเจล, โพลีเจล, อะคริลิก, อุปกรณ์ตกแต่งเล็บ, อุปกรณ์ต่อเล็บ, ฟอร์มต่อเล็บ, เล็บปลอม, อุปกรณ์ไฟฟ้า อย่าง เครื่องอบเล็บเจล, เครื่องเจียร โต๊ะ-เก้าอี้สำหรับช่าง ฯลฯ รวมไปถึงสินค้าในหมวดอื่นๆ อาทิ อุปกรณ์ด้านสปาและแวกซ์ นอกจากนี้ เนลฟี่ สตูดิโอยังจำหน่ายสินค้า House Brand ภายใต้ชื่อ “Nailfie Signature” ในสัดส่วน 10-15% มีการผลิตแล้ว 4 คอลเลกชัน / สีเจล รวมกันมากกว่า 400 SKU
“จุดเด่นของ Nailfie Signature คือการเป็น House Brand ที่เหมาะต่อการเติมเต็มช่องว่างในตลาดได้พอดี ซึ่งแบรนด์ “Nailfie Signature ผลิตในประเทศจีน หนึ่งในหลายๆ ที่เรามีคอนแทรกต์ด้วย ดังนั้นเราจึงรู้ว่าโรงงานไหนมีจุดแข็งด้านใด อีกทั้งในหลายๆ แบรนด์สีทาเล็บที่เรารู้จักมา ส่วนใหญ่แล้วจะคละรูปแบบของสีรวมกันในแต่ละคอลเลกชัน เช่น plain 80 ต่อ glitter 20 ซึ่งแตกต่างจาก Nailfie Signature ที่เราเลือกเติมช่องว่างนี้ด้วยรูปแบบสีที่เต็ม 100% เช่น Nailfie Signature คอลเลกชันแรกที่เป็นการรวม glitter ทั้งหมด มีทุกความละเอียดให้ลูกค้าเลือกสรร จากนั้นเราจะเริ่มพยายามสร้าง House Brand ให้แข็งแรงขึ้น และมีคุณภาพที่ทัดเทียมกับแบรนด์อเมริกา-เกาหลีใต้ในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของเนลฟี่ สตูดิโอ กลับต้องเผชิญความท้าทายในหลายๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ความเสี่ยงต่อการโดน disruption จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ คู่แข่งที่มีสินค้าจัดจำหน่ายอยู่ในไลน์เดียวกัน รวมไปถึงความเสี่ยงที่ใกล้ตัวที่สุด จากสถานการณ์ในธุรกิจทำเล็บที่ทรงตัว และไม่มีวี่แววจะเติบโตเมื่อเทียบกับประเทศอย่างญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ หรือแม้แต่การเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม ก็ยังดูห่างไกล เป็นเหตุผลหลักที่เป็นจุดอ่อนในตลาดทำเล็บประเทศไทยที่ยังไม่มีบรรทัดฐานที่ดีพอ
“ตลาดทำเล็บเป็นตลาดที่เทียบกับตลาดความงามอื่นๆ ได้ยาก การเติบโตของธุรกิจไม่ได้อิงจากการโตด้วยการทำเล็บโดยตรง แต่อิงจากการพึ่งอุตสาหกรรมอื่น เช่น ทำขนตา ดึงแวกซ์ สักคิ้ว เข้ามาในร้านให้ธุรกิจดูโตขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจนี้จะมีผู้ให้บริการออกไปและเข้าใหม่อยู่เรื่อยๆ ปัญหาจุดใหญ่ที่เห็นชัดคือประเทศไทยยังไม่มีองค์กรในการดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ และยังไม่มีการออกใบรับรองความเป็นมืออาชีพในแบบเดียวกับต่างประเทศ และถ้าจะแก้เรื่องดังกล่าว ตัวช่างเองก็ต้องยกระดับให้คุณค่าตัวเองในฐานะ Artist ที่ผ่านการฝึกฝนจริงจังและมีคุณภาพ ซึ่งเมื่อจุดแรกถูกแก้ไข ปัญหาการ disrupt ของเครื่องพรินต์เล็บหรือเล็บปลอมก็จะถูกปัดตกตามไปด้วย เพราะ ณ ตอนนี้สิ่งที่ว่ายังไม่สามารถเข้ามาแทนที่เสน่ห์ของการทำเล็บขึ้นด้วยฝีมือศิลปินแต่ละคน”