xs
xsm
sm
md
lg

จะรอดไหม! สหรัฐฯ จับมืออาเซอร์ไบจาน-อาร์เมเนียแถลงร่วม ประกาศหยุดยิงอีกรอบเพื่อมนุษยธรรม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหรัฐฯ แถลงในวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) ว่าการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมรอบใหม่ในความขัดแย้งระหว่างอาเซอร์ไบจานกับอาร์เมเนีย เกี่ยวกับวงล้อมนากอร์โน-คาราบัค จะมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ (26 ต.ค.) แม้ยังคงมีเหตุปะทะอีกระลอกระหว่างสองฝ่าย ซึ่งต่างกล่าวโทษกันไปมาว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงครั้งก่อนๆ

ในถ้อยแถลงร่วมระหว่างกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รัฐบาลอาเซอร์ไบจาน และรัฐบาลอาร์เมเนีย ระบุว่าข้อตกลงหยุดยิงจะมีผลตั้งแต่ 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 26 ตุลาคม

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของอเมริกา เขียนบนทวิตเตอร์ว่า “ขอแสดงความยินดีกับ นิโคล ปาชินเนียน นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย และ อิลฮัม อาลิเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ซึ่งเพิ่งตกลงจะยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิงที่จะมีผลบังคับใช้ในช่วงเที่ยงคืน มันจะช่วยปกป้องหลายชีวิต”

คำแถลงหยุดยิงมีขึ้นหลังจาก ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประชุมแยกกันกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานในกรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ (23 ต.ค.)

ที่ประชุมนี้ ร่วมด้วยเหล่าประธานร่วมของกลุ่มโอเอสซีอี มินสก์ (OSCE Minsk Group) ที่จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1992 เพื่อเป็นคนกลางคลี่คลายความขัดแย้ง นำโดยฝรั่งเศส, รัสเซียและสหรัฐฯ ทั้งนี้พวกเขาให้คำจำกัดความการประชุมครั้งนี้ว่าเป็นการหารืออย่างเข้มข้นในเรื่องข้อตกลงหยุดยิง และเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับองค์ประกอบหลักต่างๆของทางออกของปัญหาอย่างครอบคลุม

กลุ่มโอเอสซีอี มินสก์ บอกว่า ประธานร่วมของพวกเขาและบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศ เห็นพ้องจะพบปะหารือกันอีกครั้งในเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 29 ตุลาคม

อย่างไรก็ตาม ด้วยการปะทะรอบใหม่ปะทุขึ้นในวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) และการพังครืนของข้อตกลงหยุดยิง 2 ข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่มีรัสเซียเป็นคนกลาง ก็ก่อคำถามเกี่ยวกับแนวโน้มของข้อตกลงหยุดยิงรอบใหม่ที่จะช่วยหยุดการสู้รบในนากอร์โน-คาราบัค ดินแดนนากอร์โน-คาราบัค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน แต่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวอาร์เมเนีย

เหตุปะทะเกี่ยวกับดินแดนพิพาทแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 27 กันยายน ก่อนลุกลามบานปลายสู่ระดับเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1990 โดยหนนั้นมีผู้เสียชีวิตในเหตุสู้รบระหว่างสองชาติราวๆ 30,000 คน

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในนากอร์โน-คาราบัค เมื่อวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) กล่าวหากองกำลังอาเซอร์ไบจานยิงปืนใหญ่ถล่มย่านที่พักอาศัยในพื้นที่อัสเครานและมาร์ตูนียามค่ำคืน ส่วนทางอาเซอร์ไบจานกล่าวอ้างว่าฐานที่มั่นของพวกเขาถูกโจมตีโดยอาวุธขนาดเล็ก, ปืนครก และรถถัง

อาร์เมเนียกล่าวหากองกำลังอาเซอร์ไบจานว่ายิงปืนใหญ่ถล่มถิ่นพักอาศัยของพลเรือน แต่อาเซอร์ไบจานปฏิเสธว่าไม่ได้สังหารพลเมืองและบอกว่าพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง เปิดทางให้กองกำลังอาร์เมเนียถอนตัวจากสมรภูมิรบ

กระทรวงกลาโหมของภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) ระบุว่าพบความสูญเสียในหมู่กำลังพลของพวกเขา 11 นาย ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตในเหตุสู้รบครั้งนี้แล้ว 974 นาย

บรรดามหาอำนาจของโลกพยายามสกัดไม่ให้สงครามลุกลามบานปลายที่อาจลาก ตุรกี ซึ่งส่งเสียงสนับสนุนอาเซอร์ไบจานอย่างแข็งกร้าว และรัสเซีย ซึ่งมีข้อตกลงด้านกลาโหมกับอาร์เมเนีย เข้ามาเกี่ยวข้อง

ความเห็นต่างเกี่ยวกับความขัดแย้งนี้ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับพันธมิตรนาโต้ตึงเครียดมากขึ้นไปอีก โดย พอมเพโอ กล่าวหา ตุรกี เติมเชื้อไฟเข้าสู่ความขัดแย้งด้วยการมอบอาวุธสนับสนุนฝ่ายอาเซอร์ไบจาน ข้อกล่าวหาที่ทางอังการาปฏิเสธ

อาร์แมน ซาร์กซียัน นักการเมืองคนดังของอาร์เมเนีย เรียกร้องบรรดาชาติมหาอำนาจโลกเข้าเป็นคนกลาง ดึงสองฝ่ายเข้าสู่ข้อตกลงหยุดยิง และบอกว่ารัสเซียเป็นคนกลางที่มีความน่าเชื่อถือระหว่างคู่ขัดแย้ง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน เตือนว่ามันอันตรายมาก หากอาร์เมเนียต้องการแรงสนับสนุนด้านการทหารจากรัสเซียในความขัดแย้งนี้ และบอกว่าคนกลางของการเจรจาไม่ควรมีความเกี่ยวข้องในด้านการทหาร

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยว่าเขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำของอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานหลายต่อหลายรอบในหนึ่งวัน และแสดงความหวังว่าสหรัฐฯ จะช่วยเหลือรัสเซีย ในความพยายามเเป็นคนกลางหาทางออกของวิกฤตครั้งนี้

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น