วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุในวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) ว่าหลายสัปดาห์แห่งการสู้รบระหว่างอาเซอร์ไบจานกับอาร์เมเนีย เกี่ยวกับพื้นที่พิพาทนากอร์โน-คาราบัค ได้คร่าชีวิตผู้คนแล้วเกือบ 5,000 ศพ ในขณะที่บรรดาผู้นำโลกกำลังดิ้นรนเป็นคนกลางให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิง
ดินแดนพิพาทนากอร์โน-คาราบัค ซึ่งตั้งอยู่ในอาเซอร์ไบจานแต่ปกครองโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอาร์เมเนีย ได้ที่รับการสนับสนุนจากอาร์เมเนีย ปะทุเข้าสู่การสู้รบเต็มรูปแบบอีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว
นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย และประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ปฏิเสธเสียงเรียกร้องสันติภาพ และข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีรัสเซียเป็นคนกลาง พังครืนลงทั้ง 2 รอบ หลังต่างฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดข้อตกลง
ปูติน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) ว่าแต่ละฝ่ายต้องสูญเสียมากกว่า 2,000 คน ในเหตุสู้รบที่พบเห็นชาวบ้านหลายหมื่นคนต้องไร้ถิ่นฐาน และต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าเป็นอาชญากรสงคราม “จำนวนผู้เสียชีวิตเกือบใกล้ 5,000 คนแล้ว”
กลุ่มแบ่งแยกดินแดนอาร์เมเนียและกองทัพอาเซอร์ไบจานต่างกล่าวอ้างว่าสามารถก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อีกฝ่าย ในแง่ของยุทโธปกรณ์และบุคลากรทางทหาร
จนถึงตอนนี้มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการของผู้เสียชีวิตจากเหตุสู้รบที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 กันยายน ไม่ถึง 1,000 คน ในนั้นรวมถึงพลเมือง ตัวเลขซึ่งเชื่อว่าต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก เนื่องจากทางอาเซอร์ไบจานไม่เปิดเผยข้อมูลความสูญเสียด้านการทหาร
อาเซอร์ไบจานโอ้อวดว่าพวกเขาเป็นฝ่ายรุกคืบ หลังการสู้รบยืดเยื้อมานานเกือบ 1 เดือน และทาง นิโคล ปาชินเนียน นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย ยอมรับเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า ประเทศของเขากำลังเผชิญ “สถานการณ์ที่ยากลำบาก” ในแนวทางของสมรภูมิรบ
ประธานาธิบดีอิลฮัม อาลิเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน อ้างเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) ว่าเวลานี้พวกเขาควบคุมชายแดนติดกับอิหร่านอย่างสมบูรณ์ แต่ทางอาร์เมเนีย ปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว
นากอร์โน-คาราบัค ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของเทือกเขาคอเคซัสถูกกำหนดให้เป็นดินแดนปกครองตนเองภายในอาเซอร์ไบจานตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต ดินแดนนี้ได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากอาเซอร์ไบจาน เมื่อปี 1991 หรือราว 3 เดือนก่อนที่สหภาพโซเวียตจะล่มสลาย ต่อมาได้เกิดสงครามแบบเต็มรูปแบบขึ้นเมื่อปี 1992 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปประมาณ 30,000 คน
เมื่อสงครามสงบลงในปี 1994 กองกำลังอาวุธของอาร์เมเนียไม่เพียงยึดนากอร์โน-คาราบัค เอาไว้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่จำนวนหนึ่งซึ่งอยู่นอกพรมแดนอย่างเป็นทางการของดินแดนนี้ด้วย
อาเซอร์ไบจานไม่เคยปิดบังความปรารถเข้าควบคุมคาราบัคและภูมิภาคอื่นๆอีก 7 แห่งโดยสมบูรณ์ แต่พวกนักวิเคราะห์มองว่าด้วยวิธีการทางทหารเพียงอย่างเดียว ยากที่อาเซอร์ไบจานจะบรรลุเป้าหมาย
เวลานี้แนวทางด้านการทูตสำหรับคลี่คลายวิกฤตครั้งนี้ดูจะอ่อนแรงลงไป ด้วย ณ ปัจจุบัน ปาชินเนียน ปฏิเสธแนวทางด้านการทูตสำหรับคลี่คลายความขัดแย้งใดๆ ส่วนทาง อาลิเยฟ เมื่อเร็วๆ นี้ก็ประกาศกร้าวว่าจะไล่ล่ากองกำลังของอาร์เมเนีย เหมือนกับ “พวกสุนัข”
(ที่มา : เอเอฟพี)