เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ยกเลิกกำหนดการกลับมาช่วยสามีหาเสียงเลือกตั้งในวันอังคาร (20 ต.ค.) ราว 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน สืบเนื่องจากยังมีอาการไอไม่หยุด นับตั้งแต่หายป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามีของเธอ และบาร์รอน ลูกชาย เมื่อไม่นานที่ผ่านมา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ติดเชื้อโควิด-19 ต้องเข้าสู่การรักษาและกักกันโรค แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอเผยว่าตนเองหายป่วยแล้วและมีกำหนดเดินทางพร้อมกับสามี ไปยังเมืองอีรี รัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกหญิงเปิดเผยว่า “แม้นางทรัมป์รู้สึกดีอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน หลังฟื้นไข้จากโควิด-19 แต่ยังคงมีอาการไอเรื้อรัง และต้องระมัดระวังอย่างมาก เธอจะไม่ร่วมเดินทางในวันนี้”
ทรัมป์และรัฐบาลของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ว่าล้มเหลวในการใช้มาตรการระมัดระวังอย่างเหมาะสม ในการจัดกิจกรรมสาธารณะต่างๆ ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนา
เวทีหาเสียงของทรัมป์ไม่ได้บังคับใช้มาตรการต่างๆสำหรับสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในนั้นรวมถึงสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม โดยประธานาธิบดี, สุภาพสตรีหมายเลข 1 และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ล้มป่วยหลังจากเข้าร่วมพิธีที่ทำเนียบขาว สำหรับเสนอชื่อ เอมี คอนีย์ บาร์เรตต์ เป็นผู้พิพากษาศาลสูง เมื่อวันที่ 26 กันยายน ซึ่งได้รับการตราหน้าว่าเป็นกิจกรรม “ซูเปอร์สเปรดเดอร์”
ในถ้อยแถลงตอนฟื้นตัว เมลาเนีย ทรัมป์ ระบุว่าเธอโชคดีมากๆ ที่การติดเชื้อของเธอมีอาการต่างๆ แค่เล็กๆ น้อยๆ แม้อาการต่างๆ เหล่านั้นจะเกิดขึ้นพร้อมๆกันและดูเหมือนจะขึ้นๆ ลงๆ ในช่วงไม่กี่วันหลังจากติดเชื้อ “ฉันรู้สึกร่างกายปวดเมื่อย ไอและปวดศีรษะ และรู้สีกเหนื่อยล้าเกือบตลอดเวลา”
เมลาเนีย ต่างจากสามีของเธอ เพราะว่าเธอไม่ได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และเลือกหนทางที่เป็นไปตามธรรมชาติมากกว่าในแง่ของการรักษา โดยเลือกรับประทานวิตามินและอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
สหรัฐฯ รายงานมีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 8.2 ล้านคน ในนั้นเกือบ 220,000 คนเสียชีวิต ปัจจุบันผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นในรัฐต่างๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินผลการเลือกั้งประธานาธิบดีที่กำลังมาถึงในอีกราวๆ 2 สัปดาห์
เมื่อวันอังคาร (20 ต.ค.) นิวยอร์กไทม์ส วิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของโพลสำนักต่างๆ พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมตามหลัง โจ ไบเดน คู่แข่งจากเดโมแครต ในทุกรัฐสมรภูมิ ที่เขาเคยเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน ในศึกเลือกตั้งปี 2016 และรัฐเพนซิลเวเนียก็เป็นหนึ่งในนั้น
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ในโพลสำนักต่างๆ บอกว่าพวกเขาเชื่อมั่นตัวแทนจากพรรคเดโมแครต มากกว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกัน ในแง่ของการรับมือกับโรคระบาดใหญ่
(ที่มา : เดอะการ์เดียน)