บาร์รอน ลูกชายวัย 14 ปีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก แต่ไม่แสดงอาการ หลังจากทั้งพ่อและแม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไปก่อนหน้านี้ จากการเปิดเผยของเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ในวันพุธ (14 ต.ค.) ขณะที่อีกด้ายแพทย์ใหญ่สหรัฐฯ ยืนยันตัวประธานาธิบดีไม่สามารถแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆ ได้แล้ว เปิดทางสำหรับเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งได้เต็มที่
“โชคดีเขาเป็นเด็กหนุ่มที่แข็งแรงและไม่แสดงอาการ” เมลาเนีย ทรัมป์ ระบุในถ้อยแถลง พร้อมเผยว่านับตั้งแต่นั้นเธอ และบาร์รอน มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นลบแล้ว
ในส่วนตัวเธอเองนั้น มาลาเนีย ทรัมป์ เผยว่ามีอาการ “เล็กน้อย” และแสดงความหวังว่าจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลข 1 โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ฉันมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอและปวดศีรษะ และรู้สึกอ่อนล้ามากๆ เกือบตลอดเวลา” เธอกล่าว “ฉันเลือกแนวทางปกติในแง่ของการรักษา เลือกกินวิตามินและอาหารเพื่อสุขภาพ” เมลาเนีย ทรัมป์เผย
โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเป็นเวลา 3 คืน หลังจากประกาศเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ว่าเขาและเมลาเนีย มีผลตรวจโควิด-19 ออกมาเป็นบวก
ในการรักษา ทรัมป์ได้รับแอนติบอดีผสมที่พัฒนาโดยบริษัทรีเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคอล อิงก์ และ เรมเดซิเวียร์ ยาต้านไวรัสของกิลเลียด ไซเอนเซส เช่นเดียวกับยาสเตียรอยด์ เดกซาเมทาโซน
“อีกแง่หนึ่งฉันดีใจที่เรา 3 คนผ่านช่วงเวลาแบบนี้พร้อมๆ กัน เพื่อที่เราจะได้ดูแลกันและกัน และใช้เวลาอยู่ด้วยกัน” เมลาเนีย ทรัมป์ กล่าว
ในวันเดียวกันนี้เอง นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวซีบีเอส ยืนยันว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้อีกต่อไป และสามารถเดินหน้าหาเสียงแบบ town hall ในวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) โดยไม่ก่อความเสี่ยงแก่บุคคลอื่นๆแต่อย่างใด
เฟาซี บอกว่า เขาและเพื่อนผู้เชี่ยวชาญ ณ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปดังกล่าว หลังจากทบทวนทุกผลตรวจโควิด-19 ของประธานาธิบดี และได้มีการตรวจเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการวิจัยของทางสถาบันสุขภาพแห่งชาติ
ทรัมป์ เผยในวันที่ 2 ตุลาคม ว่าเขามีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก จากนั้นในสัปดาห์ถัดมา เขาบอกว่าตนเองฟื้นไข้และไม่มีเชื้อไวรัสอีกแล้ว
การหาเสียงแบบ town hall กับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ ไม่ขึ้นไม่ถึง 3 สัปดาห์ก่อนศึกลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งเวลานี้ ทรัมป์ มีคะแนนตามหลัง โจ ไบเดน คู่แข่งจากเดโมแครต ในผลโพลของหลายสำนัก
นพ.เฟาซี ยังให้สัมภาษณ์กับซีบีเอส ด้วยว่าสหรัฐฯ ไม่น่าจะมีวีคซีนที่ได้รับอนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบว่า “มีความปลอดภัยและประสิทธิผล” ในระดับ 100 ล้านโดสในช่วงสิ้นปี ความเห็นที่สวนทางกับคำกล่าวอ้างของ ทรัมป์ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติสหรัฐฯ บอกว่า วัคซีนจำนวนมากพอสำหรับฉีดให้ประชาชนทั่วไป มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2021 หากว่าทุกวัคซีนทดลองทั้งหลายที่อยู่ในการทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้ายพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิผล
ทั้งนี้ คาดหมายอาจมีว่าที่วัคซีนราวๆ 2 ตัวที่ได้รับการรับรองจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม แต่จะมีวัคซีนเพียงไม่กี่ล้านโดสเท่านั้นที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ในช่วงสิ้นปี นพ.เฟาซีระบุ
ทรัมป์บอกว่าเขาต้องการแจกยาแอนติบอดีที่อยู่ในขั้นทดลองของบริษัทรีเจเนอรอน ซึ่งถูกนำมาใช้รักษาเขาจนหายป่วย ให้แก่อเมริกันชนทุกคนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ นพ.เฟาซี บอกว่าเสบียงยายังไม่เพียงพอที่จะมอบให้แก่คนไข้โควิด-19 ทุกคน นอกจากนี้แล้วมันก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบอีกด้วย
(ที่มา : รอยเตอร์)