กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับ สเตฟานี วินสตัน วอลคอฟฟ์ อดีตผู้ช่วยสาวของ “เมลาเนีย ทรัมป์” เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) หลังจากที่เธอออกหนังสือพ็อกเกตบุ๊กแฉเรื่องราวส่วนตัวของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงห้ามเปิดเผยความลับ
เอกสารคำฟ้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า วอลคอฟฟ์ ซึ่งเป็นผู้แต่งหนังสือ “Melania and Me” ที่เริ่มวางแผงเมื่อเดือน ก.ย. ได้ทำสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับภริยาของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเธอได้รับรู้มาระหว่างทำงานเป็นอาสาสมัครภายในทำเนียบขาว
วอลคอฟฟ์ เคยทำงานให้กับ เมลาเนีย ระหว่างปี 2017-2018 และแม้เธอจะไม่ใช่ลูกจ้างของรัฐ แต่ก็ได้ลงนามในหนังสือสัญญาที่มีผลบังคับตามกฎหมายซึ่งเรียกกันว่า gratuitous services agreement โดยสัญญาดังกล่าวระบุเอาไว้ชัดเจนว่า เธอไม่สามารถ “ตีพิมพ์, ทำซ้ำ หรือกระทำการอย่างอื่นใดที่เป็นการเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคล หรือองค์กรที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน”
วอลคอฟฟ์ ยังไม่มีสิทธิ์นำเรื่องราวที่เธอรับรู้มาไปแสวงหาผลกำไร โดยปราศจากความเห็นชอบจากทีมกฎหมายของทำเนียบขาว
หนังสือพ็อกเกตบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “Melania and Me: The Rise and Fall of My Friendship With the First Lady” มีการให้ข้อมูลลับเฉพาะต่างๆ นานาเกี่ยวกับอดีตนางแบบเชื้อสายสโลวีเนีย วัย 50 ปี ซึ่งโชคชะตานำพาให้มาเป็นภรรยาของมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกัน ก่อนจะก้าวสู่ตำแหน่งสุภาพสตรีเบอร์หนึ่งของสหรัฐฯ อย่างไม่คาดฝัน
หนังสือเล่มนี้บรรยายบุคลิกของ เมลาเนีย ว่า เป็นคนกระตือรือร้นและกล้าตัดสินใจมากกว่าที่หลายคนคิด ทั้งยังเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นระหว่างเธอกับ “อิวองกา ทรัมป์” ถึงขนาดที่ เมลาเนีย เคยเรียกลูกเลี้ยงสาวคนนี้ว่า “นังงูพิษ”
วอลคอฟฟ์ ถูกไล่ออกหลังเกิดกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับเงินทุนหลายล้านดอลลาร์ที่ใช้สำหรับจัดพิธีสาบานตนของ ทรัมป์ เมื่อเดือน ม.ค. ปี 2017 ซึ่งเธอมีส่วนรับผิดชอบด้วย
เมื่อต้นปีนี้ อัยการสูงสุดวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้องคณะทำงานจัดพิธีสาบานตนของ ทรัมป์ รวมถึงบริษัท ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน โดยระบุว่า ครอบครัว ทรัมป์ ฉวยโอกาสทำกำไรมหาศาลจากอีเวนต์ดังกล่าว โดยเอกสารคำฟ้องยังมีการอ้างบันทึกข้อมูลจาก วอลคอฟฟ์ เป็นหลักฐานด้วย
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ชี้ว่า วอลคอฟฟ์ ยังมีพันธกรณีที่จะต้องส่งหนังสือให้ เมลาเนีย และทีมกฎหมายทำเนียบขาวตรวจสอบก่อนพิมพ์ แม้จะไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ทางกระทรวงได้แจ้งเตือนไปยัง วอลคอฟฟ์ และสำนักพิมพ์ ไซมอน แอนด์ ชุสเตอร์ ตั้งแต่เดือน ก.ค. ว่า หนังสือเล่มนี้อาจเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ และได้ดำเนินการทางกฎหมายหลังจากที่หนังสือถูกตีพิมพ์ โดยขอให้ศาลสั่งอายัดผลกำไรทั้งหมดจากการจำหน่ายหนังสือดังกล่าว
ที่มา: เอเอฟพี