นับเป็นข่าวที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกเมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศผ่านสื่อทวิตเตอร์วันนี้ (2 ต.ค.) ว่าเขาและภรรยา ‘เมลาเนีย’ ติดเชื้อโควิด-19 และกำลังเข้าสู่กระบวนการกักตัวและรักษา ก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพียงแค่ 1 เดือน
ต่อไปนี้คือปฏิกิริยาต่างๆ จากทั้งคนในรัฐบาลสหรัฐฯ เอง ตลอดจนนักวิเคราะห์, สื่อ และผู้นำต่างชาติ
- รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์
“คาเรน และผมขอส่งความรักและความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดี @realDonaldTrump และ @FLOTUS เมลาเนีย ทรัมป์ ผู้เป็นเพื่อนรักของเรา เราทั้งสองและชาวอเมริกันทั่วประเทศขอภาวนาให้ท่านหายป่วยโดยเร็ว ขอพระเจ้าคุ้มครองประธานาธิบดีทรัมป์ และเมลาเนีย ยอดสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเรา”
- กาเบรียล อัททาล โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส
“นี่คือข้อพิสูจน์ว่าเชื้อไวรัสไม่ละเว้นใครทั้งสิ้น แม้แต่คนที่สงสัยในตัวมัน ผมขอให้ท่านหายจากอาการป่วยโดยเร็ว”
- หู ซีจิน (Hu Xijin) บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส
“ประธานาธิบดี ทรัมป์ และสตรีหมายเลขหนึ่ง ต้องจ่ายราคาที่พวกเขาปฏิเสธความร้ายแรงของโควิด-19 ข่าวนี้ทำให้เห็นว่าสถานการณ์โรคระบาดในสหรัฐฯ รุนแรงแค่ไหน มันบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของทรัมป์และสหรัฐฯ และยังอาจส่งผลแง่ลบต่อเขาในศึกเลือกตั้งด้วย”
- หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี
“การที่ ทรัมป์ และภรรยามีผลตรวจเป็นบวกคือสิ่งที่ย้ำเตือนว่าไวรัสโคโรนายังคงแพร่กระจายออกไป แม้ ทรัมป์ จะพยายามอ้างอย่างไร้ประโยชน์ว่ามันไม่เป็นอันตรายแล้วก็ตาม นับตั้งแต่ไวรัสได้อุบัติขึ้นเมื่อต้นปีนี้ ทรัมป์, ทำเนียบขาว และทีมหาเสียงของเขาก็มองข้ามความรุนแรงของมันมาโดยตลอด และปฏิเสธที่จะทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข -- หรือแม้แต่คำแนะนำที่ออกมาจากรัฐบาลของเขาเอง -- เช่นการสวมหน้ากากในที่สาธารณะและการเว้นระยะห่างทางสังคม ในทางตรงกันข้าม ทรัมป์ยังคงจัดเวทีปราศรัยที่มีผู้สนับสนุนเข้าร่วมเป็นพันๆ คน”
- แถลงการณ์จากโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน
“ประธานาธิบดี ไช่ (อิงเหวิน) ได้ทราบข่าว จึงขอส่งความปรารถนาดีไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ ผ่านช่องทางการทูต โดยหวังว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ และภรรยาของท่านจะหายป่วยโดยเร็วภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์มืออาชีพ”
- เชน โอลิเวอร์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของ AMP Capital
“การที่ ทรัมป์ ติดไวรัสโคโรนาอาจช่วยให้เขาได้รับคะแนนสงสารบ้าง... สถานการณ์อาจเป็นไปได้หลายอย่าง ถ้าเขามีผลตรวจเป็นบวกแต่อาการไม่รุนแรง ทุกอย่างก็อาจจะจบภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลก็จะสร้างความวิตกกังวลต่อตลาดมากขึ้น แน่นอนว่าการรณรงค์หาเสียงที่หยุดชะงักย่อมทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า ทรัมป์ จะแพ้เลือกตั้ง”
“โดยทั่วไปแล้ว ตลาดย่อมคาดหวังให้ ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะ และนักลงทุนส่วนใหญก็อยากให้ ทรัมป์ เป็นผู้นำต่อไป เพราะนั่นหมายถึงอัตราภาษีที่ต่ำ และกฎระเบียบที่น้อยกว่ารัฐบาล ไบเดน”
- นาโอยะ โอชิบุโกะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ แอสเซ็ต แมเนจเมนต์
“ทรัมป์ ยังมีคะแนนนิยมตามหลัง ไบเดน และเขาไม่สามารถทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาได้จากการดีเบตรอบแรกซึ่งถือว่าสำคัญที่สุดจากทั้งหมด 3 ครั้ง ผมคิดว่านักลงทุนคงจะเริ่มคาดเดาแล้วว่า ไบเดน จะเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้ง”
“สิ่งที่ผมกังวลก็คือ ทรัมป์ อาจแสดงท่าทีก้าวร้าวกับจีนมากขึ้นหลังจากที่ตัวเขาเองติดไวรัส ก็เหมือนกับนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษที่ต่อต้านจีนมากขึ้นหลังจากที่เขาติดโควิด-19”
ที่มา: รอยเตอร์