รอยเตอร์/เอเจนซีส์/mgrออนไลน์ – ทีมแพทย์ผู้นำสหรัฐฯ ชี้ มีความน่าจะเป็นที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะได้รับอนุญาตให้กลับทำเนียบขาวได้เร็วสุดในวันจันทร์ (5 ต.ค.) ถึงแม้ว่าสถานะอาการป่วยของผู้นำสหรัฐฯยังคงคลุมเครือต่อภายนอก ด้านสื่อทั่วโลกรายงานล้อเลียนภาพผู้นำสหรัฐฯเซ็นชื่อในกระดาษเปล่า ที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากทำเนียบขาว เพื่อสร้างสถานภาพให้ดูเหมือนเป็นผู้นำที่ขยันขันแข็งในการทำงาน แม้ป่วยไวรัสโควิด-19 ก็ตาม ท่ามกลางทฤษฎีสมคบคิดที่เกิดขึ้นมา ไม่เชื่อว่าทรัมป์ติดโควิด-19
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (5 ต.ค.) ว่า หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทหารวอลเตอร์ รีด ในรัฐแมร์รีแลนด์ เขาได้ส่งทั้งภาพถ่ายและวิดีโอคลิปออกมาเป็นระยะซึ่งเป็นความพยายามที่ต้องการให้ชาวอเมริกันชนมั่นใจว่าเขากำลังหายป่วยจากโรคโควิด-19 ซึ่งอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในวันจันทร์ (5) ว่า อเมริกามีผู้เสียชีวิตรวม 209,725 คน และเสียชีวิตรวม 7,418,107 คน ขณะที่ตัวเลขติดเชื้อรวมทั่วโลกทั้งหมด 35,165,808 คน และเสียชีวิตรวมทั้งหมด 1,037,153 คน
ซึ่งในวันอาทิตย์ (4) ทรัมป์ได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์มีใจความว่า “มันเป็นการเดินทางที่น่าสนใจ ผมเรียนรู้เป็นอย่างมากเกี่ยวกับโควิด-19”
การที่ผู้นำสหรัฐฯสามารถเดินทางกลับไปยังทำเนียบขาวได้อย่างรวดเร็วนั้น จะช่วยทำให้เขาแสดงให้คนเห็นว่าได้กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติระหว่างที่เขากำลังเผชิญหน้ากับการเลือกตั้งสำหรับการดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2
ทั้งนี้ ทีมแพทย์ของผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า สุขภาพของผู้นำสหรัฐฯดีขึ้นมาก และเขาอาจสามารถเดินทางออกจากโรงพยาบาลได้อย่างเร็วที่สุดภายในวันจันทร์ (5)
ซึ่งมาจนถึงเวลานี้อาการป่วยโควิด-19 ของทรัมป์ยังคงคลุมเคลือต่อสาธารณะ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (5) ว่า ทีมแพทย์ของทรัมป์ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ (2) ผู้นำสหรัฐฯมีไข้ขึ้นสูง และระดับออกซิเจนของทรัมป์ลดลง 2 ครั้ง โดยเกิดขึ้นครั้งแรกในวันศุกร์ (2) และอีกครั้งในวันเสาร์ (3) โดยชี้ว่า ระดับออกซิเจนอยู่ที่ 93% ในจุดหนึ่งซึ่งการที่ระดับออกซิเจนต่ำกว่า 95% ถือกันว่าต่ำกว่าระดับปกติ
โดยผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ต่างลงความเห็นโดยทั่วไปว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการขั้นร้ายแรงหากว่าผู้ป่วยมีระดับออกซิเจนในร่างกายที่ต่ำกว่า 94% ซึ่งมีการเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้รับออกซิเจนที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์ (2) แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขาได้รับออกซิเจนในวันเสาร์ (3) ด้วยหรือไม่ หรือระดับออกซิเจนของเขาในจุดหนึ่งต่ำกว่า 90%
นอกจากนี้ ทางแพทย์ได้กล่าวว่า นอกเหนือจากยาเรมเดซีเวียร์ (remdesivir) ผู้นำสหรัฐฯได้รับยาสเตอรอยด์เด็กซาเมทาโซน (dexamethasone) ซึ่งเป็นยารักษามีฤทธิ์ในการลดการอักเสบและกดภูมิคุ้มกันในวันเสาร์ (3)
ขณะที่สื่อทั่วโลกได้รายงานถึงภาพแรกที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากทำเนียบขาว เป็นภาพผู้นำสหรัฐฯกำลังทำงานระหว่างอยู่ในโรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด โดย เดลี เมล สื่ออังกฤษ รายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯถูกล้อเลียนไปทั่วโลกโซเชียลมีเดีย หลังมีคนตาไวแอบเห็นว่า ในความเป็นจริงแล้วทรัมป์กำลังเซ็นชื่อในกระดาษเปล่า แต่พยายามสร้างภาพว่าเป็นผู้นำที่ขยันขันแข็ง และทำงานแม้กระทั่งป่วยติดไวรัสโควิด-19
โดย อิว็องกา ทรัมป์ บุตรสาวและที่ปรึกษาผู้นำสหรัฐฯได้ทวีตแสดงความเห็นต่อภาพผู้นำสหรัฐฯกำลังเซ็นชื่อว่า “ไม่มีอะไรที่จะหยุดเขาจากการทำงานเพื่อประชาชนชาวอเมริกัน ไม่ยอมหยุดพัก!”
ด้านนักข่าวประจำทำเนียบขาว Andrew Feinberg ได้ทำการตรวจสอบภาพถ่ายของผู้นำสหรัฐฯ ที่ออกมาจากทำเนียบขาวอย่างใกล้ชิด โดยมีการซูมเข้าไปในรายละเอียด เฟนเบิร์ก เปิดเผยว่า พบว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเซ็นชื่อบนกระดาษเปล่า และข่าวการที่ทรัมป์จัดฉากในโรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด ได้แพร่สะพัดไปทั่วโลกโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นกระแสไปทั่วในเช้าวันอาทิตย์ (4)
และพบว่า ผู้นำสหรัฐฯสร้างเสียงไม่พอใจให้กับประชาชนมากขึ้น จากการที่เขาได้ออกมาปรากฏตัวกับผู้สนับสนุนที่ด้านนอกของโรงพยาบาล เพื่อให้ถ่ายภาพเขาที่อยู่ด้านในขบวนรถช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (4) ทั้งๆ ที่ตัวเองยังมีเชื้อโควิด-19 อยู่ ซึ่งบรรดานักข่าวทำเนียบขาวที่ติดตามผู้นำสหรัฐฯไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการล่วงหน้าถึงการออกมาปรากฏตัวเพื่อให้ถ่ายภาพของผู้นำสหรัฐฯอ้างอิงจากสื่อโพลิติโก
เอบีซีนิวส์รายงานถึง คารินา มัลคอนยัน (Karina Malkonyan) จากเมืองฟิลาเดลเฟีย หนึ่งในประชาชนที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการปรากฏตัวของทรัมป์ในขบวนรถของเขา ว่า “ดิฉันคิดว่านี่เป็นการเห็นแก่ตัวมากๆ” และเสริมต่อว่า “เขาได้ทำร้ายผู้คนเป็นจำนวนมาก และการทำสิ่งนี้โดยตรงมันถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก”
เอบีซีนิวส์รายงานว่า การออกไปให้ประชาชนถ่ายภาพของทรัมป์ ยังสร้างความไม่พอใจให้กับแพทย์ที่โรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด ที่ผู้นำสหรัฐฯกำลังพักรักษาตัวและได้ออกมาแสดงเสียงตำหนิผ่านทางทวิตเตอร์
ซึ่งการที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ ยังคงสามารถนั่งเซ็นชื่อตัวเองภายในโรงพยาบาล และออกมาปรากฏตัวในขบวนรถ สร้างข้อสงสัยในหมู่ประชาชนอเมริกัน ว่า เขาในความเป็นจริงแล้วป่วยด้วยโรคโควิด-19 หรือไม่ เมื่อเทียบกับผู้นำโลกคนอื่นๆ ที่ป่วยโควิด-19 มักจะเก็บตัวหรือมีอาการขั้นร้ายแรง เช่น ในรายของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (5) ว่า มีทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดที่เป็นที่เชื่อในหมู่ประชาชนอเมริกันบางส่วนว่า ในความเป็นจริงแล้วประธานาธิบดี ทรัมป์ ไม่ได้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ซึ่ง จอย รีด (Joy Reid) ผู้ประกาศชื่อดังทางสถานีโทรทัศน์ MSNBC ถูกโจมตีหลังได้แสดงความเห็นในเชิงชี้ว่า ทรัมป์แกล้งป่วยโควิด-19 เพื่อหนีดีเบตแข่งกับ โจ ไบเดน หลังรอบแรกเขาทำได้ไม่ดี
อ้างอิงจากฟ็อกซ์นิวส์ รีดได้ทวีตมีใจความว่า มีเพื่อนของเธอจำนวนมากออกมาแสดงความเห็นไม่เชื่อที่ผู้นำสหรัฐฯมีผลการติดเชื้อเป็นบวก โดยหนึ่งในเพื่อนแสดงเหตุผลที่ไม่เชื่อจากการที่ทรัมป์มีนิสัยโกหกเป็นอย่างมาก และเพื่อนอีกคนชี้ว่า อาจเป็นไปได้ว่า ทรัมป์ทำไปเพื่อต้องการหนีดีเบต
ขณะที่ CNN ได้รายงานถึง แบร์รี เชียร์แมน (Barry Sheerman) สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ สังกัดพรรคแรงงานอังกฤษ ได้ทวีตแสดงความไม่เชื่อมั่นในการล้มป่วยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดยกล่าวว่า “พวกเราแน่ใจหรือที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ และภรรยาของเขา ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจริง? สิ่งนี้ได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อิสระแล้วหรือไม่? (เพราะ) ระดับความไม่น่าเชื่อถืออยู่ในขั้นเลวร้าย และมีข่าวเฟกนิวส์จำนวนมากออกมาจากชายผู้นี้”
และสอดคล้องกับ ไมเคิล มัวร์ (Michael Moore) นักสร้างสารคดีชาวอเมริกันและนักเคลื่อนไหวการเมืองปีกก้าวหน้าสหรัฐฯ อ้างอิงจากเดลีเมล และ ดิ อินดีเพนเดนซ์ ของอังกฤษ พบว่า มัวร์ วันศุกร์ (2) ออกมาแสดงทฤษฎีสมคบคิดผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า ทรัมป์สร้างเรื่องในการติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ต้องการเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯออกไปโดยชี้ไปถึงสถิติการโกหกของทรัมป์ที่มีมาในอดีต
ส่วนสถานีวิทยุฮิปฮอปผิวสี ที่ถกการเมืองชื่อดังของนิวยอร์ก ซิตี เบรกฟาสต์ คลับ (Breakfast club) ที่เคยได้รับเกียรติจากทั้งว่าที่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส ส.ส.นิวยอร์ก อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ และรวมถึงนายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก ซิตี บิล เดอ บลาสซิโอ มาให้สัมภาษณ์ในรายการมาแล้ว โดยล่าสุด หนึ่งในผู้จัดกล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯจะติดโควิด-19 มาก่อน นอกจากทรัมป์จะเสียชีวิตด้วยโรคนี้ พร้อมเปิดสายให้ประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นอย่างคึกคัก