ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) พุ่งผ่าน 1 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.ย.) จากการนับของสำนักข่าวเอเอฟพี ไม่ถึงปีนับตั้งแต่มันอุบัติขึ้นในจีนช่วงปลายปีที่แล้ว และแพร่ระบาดไปทั่วโลก
โรคระบาดใหญ่ทุบทำลายเศรษฐกิจโลก โหมกระพือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และทำวิถีชีวิตพลิกผัน ไล่ตั้งแต่ชุมชนแออัดในอินเดีย และแถบพื้นทีป่าของบราซิล ไปจนถึงนิวยอร์ก เมืองใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ
กีฬาระดับโลก กิจกรรมบันเทิงต่างๆ และการเดินทางระหว่างประเทศต้องหยุดชะงัก เนื่องจากแฟนๆ ผู้ชมและนักท่องเที่ยวถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้าน ตามมาตรการอันเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส
มาตรการควบคุมอันเข้มงวด ทำให้ครึ่งหนึ่งของมวลมนุษยชาติ หรือมากกว่า 4,000 ล้านคน ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งนับตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อชะลอการแพร่ระบาด ทว่าหลังจากผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ แล้วพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
จนถึง 22.30 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 05.30 น.ของวันจันทร์) ตามการนับของเอเอฟพีซึ่งใช้แหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการของประเทศต่างๆ พบว่าโควิด-19 คร่าชีวิตผูู้คนทั่วโลกไปแล้ว 1,000,009 คน จากผู้ติดเชื้อ 33,018,877 คน
สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 200,000 คน สูงที่สุดในโลก รองลงมาก็คือบราซิล อินเดีย เม็กซิโก และะสหราชอาณาจักร
ในขณะที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังคงเร่งรีบค้นหาวัคซีนที่ได้ผล รัฐบาลประเทศต่างๆ ถูกบีบให้ใช้มาตรการที่ลำบากใจอีกครั้ง เนื่องด้วยแม้ข้อจำกัดอันเข้มขวดต่างๆจะสามารถช่วยชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส แต่ขณะเดียวกันมันก็ก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจและภาคธุรกิจต่างๆ ที่เปราะบางอยู่ก่อนแล้ว
กองทุนการเงินระหว่างประเทศเคยเตือนว่าความวุ่นวายทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจก่อวิกฤตเลวร้ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในขณะที่จีดีพีโลกพังครืน
ยุโรป ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากระลอกแรกของการแพร่ระบาด เวลานี้กำลังเผชิญตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยปารีส ลอนดอน และมาริด ต่างถูกบีบให้ต้องบังคับใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่เพื่อชะลอเคสผู้ติดเชื้อ ท่ามกลางความกังวลว่าโรงพยาบาลต่างๆ อาจรองรับผู้ป่วยไม่ไหว
การสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคมตามร้านค้า คาเฟ่และระบบขนส่งสาธารณะ เวลานี้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตในหลายเมืองทั่วโลกแล้ว
ในช่วงกลางเดือนกันยายน พบเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค และองค์การอนามัยโลกเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อาจเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 2 ล้านคน หากปราศจากการร่วมไม้ร่วมมือกันของโลก
“1 ล้านคนเป็นตัวเลขที่น่าสยดสยอง เราจำเป็นต้องไตร่ตรองมันก่อนที่เราจะเริ่มพิจารณาล้านที่ 2” นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ประธานโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อวันศุกร์ (25 ก.ย.) “เราเตรียมพร้อมร่วมมือร่วมใจกันเพื่อหลีกเลี่ยงตัวเลขดังกล่าวแล้วหรือยัง?”
(ที่มา : เอเอฟพี)