องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจคร่าชีวิตผู้ป่วยถึง 2 ล้านคนก่อนที่โลกจะมีวัคซีนใช้อย่างแพร่หลาย และยอดผู้เสียชีวิตอาจสูงยิ่งกว่านั้น หากนานาชาติไม่ร่วมแรงร่วมใจสกัดกั้นการแพร่ระบาด
ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของ WHO ระบุในงานแถลงข่าววานนี้ (25 ก.ย.) ว่า “ถ้าเราไม่ร่วมมือกันทั้งหมด ตัวเลขผู้เสียชีวิต 2 ล้านคนจะไม่ใช่แค่จินตนาการ แต่อาจเกิดขึ้นจริง”
โควิด-19 ซึ่งถูกพบเป็นครั้งแรกในจีนเมื่อ 9 เดือนก่อนได้แพร่ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก และทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วเกือบ 1 ล้านคน
ไรอัน ย้ำว่าไม่ควรจะโทษคนหนุ่มสาวว่าเป็นต้นเหตุทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่ากิจกรรมปาร์ตี้สังสรรค์ของคนกลุ่มนี้คือปัจจัยกระตุ้นให้โควิด-19 กลับมาระบาดซ้ำ หลังจากที่รัฐบาลทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายล็อกดาวน์
ในทางตรงข้าม ไรอัน ระบุว่า การรวมกลุ่มในสถานที่ปิดของผู้คนทุกช่วงวัยล้วนเป็นสาเหตุให้เชื้อแพร่กระจายทั้งสิ้น
WHO ยังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อดึงรัฐบาลจีนเข้าร่วมโครงการ COVAX ซึ่งเป็นการระดมเงินทุนจัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 เพื่อรับประกันว่าทุกประเทศสมาชิกจะสามารถเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย แม้จะเลยกำหนดเส้นตายในการเข้าร่วมโครงการไป 1 สัปดาห์แล้วก็ตาม
“เรากำลังเจรจากับจีนว่าจะมีส่วนร่วมอย่างไรได้บ้างในอนาคต” บรูซ อัลวาร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสของ WHO ระบุ ซึ่งการพูดคุยนี้อาจหมายถึงการขอให้จีนช่วยจัดส่งวัคซีนเข้าสู่โครงการด้วย
อัลวาร์ด ยืนยันว่า ไต้หวันได้เสนอตัวเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิก WHO ก็ตาม ทำให้เวลานี้มี 159 ประเทศเข้าร่วมโครงการ COVAX และอีก 34 ประเทศอยู่ระหว่างตัดสินใจ
เมื่อวานนี้ (25) WHO ยังได้เผยแพร่เกณฑ์ประเมินการใช้งานวัคซีนโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ผลิตยาต่างๆ ในขณะที่การทดลองวัคซีนหลายตัวมีความก้าวหน้าไปถึงขั้นทดสอบกับมนุษย์แล้ว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนยืนยันวานนี้ (25) ว่า WHO ให้การสนับสนุนโครงการทดลองฉีดวัคซีนต้านโควิดในกรณีเร่งด่วนของจีน แม้ว่าวัคซีนเหล่านี้จะยังไม่ผ่านการทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้ายก็ตาม
ที่มา: รอยเตอร์