ยุโรปตะวันตกมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันแซงหน้าสหรัฐฯ กลับมาเป็นจุดร้อนของการแพร่ระบาดอีกรอบ หลังจากเคยควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้วในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
27 ชาติในสหภพยุโรป บวกกับสหราชอาณาจักร, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมกัน 27,233 คนในวันพุธ (9 ก.ย.) มากกว่าสหรัฐฯ ที่พบ 26,015 คน หลังจาก สเปน, ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ ทั่วทวีป พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์
“เรามีหลายเรื่องที่ต้องตัดสินใจ” ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวในวันพฤหัสบดี (10 ก.ย.) หนึ่งวันก่อนหน้าคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงแห่งชาติจะประชุมกันในวันศุกร์ (11 ก.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางตอบสนองของรัฐบาล “เราจำเป็นต้องเข้มงวดต่อไป สมเหตุสมผล และต้องไม่ก่อความตื่นตระหนกใดๆ”
ฝรั่งเศสรายงานพบผู้ติดเชื้อ 9,843 คนในวันพฤหัสบดี (10 ก.ย.) สูงสุดนับตั้งแต่เลิกล็อกดาวน์ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในสเปน ซึ่งปัจจุบันเป็นชาติที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากสุดในอียู ชะลอตัวลงเหลือ 4,137 คน ขณะที่อิตาลีพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เกือบๆ 1,600 คน
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ยุโรปแซงหน้าสหรัฐฯ ในการก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ของความพยายามควบคุมโรคระบาดใหญ่ นับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นจีน ก่อนแพร่ระบาดสู่อิตาลีและประเทศอื่นๆ ทั่วทวีปยุโรปในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา จนกระทั่งระบบสาธารณสุขของหลายชาติเกือบเข้าสู่ภาวะล่มสลาย ก่อนที่มาตรการล็อกดาวน์อันเข้มงวดจะช่วยสกัดการแพร่ระบาดเอาไว้ได้
เวลานี้ยุโรปกำลังเผชิญตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่สูงลิ่ว จำนวนมากเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เดินทางไปพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วติดไวรัสและนำเชื้อโรคร้ายติดตัวกลับบ้าน เช่นเดียวกับการรวมกลุ่มทางสังคมของคนหนุ่มสาว ทั้งนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ก่อความกังวลแก่บรรดาผู้ดูแลนโบายทั้งหลาย เนื่องจากโรงเรียนต่างๆ ได้กลับมาเปิดการเรียนการสอน และบริษัทหลายแห่งเลิกให้พนักงานทำงานจากที่บ้านแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่กลับมาเพิ่มขึ้น ยังไม่ก่อผลลัพธ์จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามมาด้วย เนื่องจากคนไข้ใหม่จำนวนมากเป็นคนหนุ่มสาวและเป็นบุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรง ต่างจากช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน ที่โรคระบาดใหญ่ปลิดชีพผู้สูงวัยมากมายตามบ้านพักคนชราทั่วยุโรป ขณะเดียวกัน มันก็เป็นผลจากแนวทางการรักษาที่ดีขึ้นและการยกระดับตรวจเชื้อ ซึ่งส่งผลให้พบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นโดยอัติโนมัติ
ยุโรปพบผู้เสียชีวิตเพียง 252 คนในวันพุธ (9 ก.ย.) จากเดิมที่มีตัวเลขรวมรายงานแตะระดับหลายพันคนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ในสหรัฐฯ นั้นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันอยู่ที่ระดับมากว่า 1,000 คนเกือบตลอดสัปดาห์ที่แล้ว และจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า จนถึงช่วงครึ่งวันเช้าของวันพฤหัสบดี (10 ก.ย.) อเมริกาพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมไปแล้วมากกว่า 430 คน
แม้สหรัฐฯ พบเห็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ทุเลาลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ยกเว้นเพียงอินเดีย และบราซิล
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)