‘ทรัมป์’ ขู่ล้มดีลถ้า ‘ไบต์แดนซ์’ ยังมีเอี่ยว สื่อจีนโต้ปักกิ่งไม่ยอมให้ ‘ติ๊กต็อก’ เสียเปรียบ

เอเจนซีส์ – ข้อตกลงเพื่อให้ติ๊กต็อกได้อยู่ในอเมริกาต่อเจอตอต้นใหญ่ เมื่ออยู่ๆ ทรัมป์ยืนกรานว่า ไบต์แดนซ์ต้องไม่มีส่วนควบคุมบริษัทใหม่ “ติ๊กต็อกโกลบัล” ขณะที่พันธมิตรทั้งสามยังไม่มีความชัดเจนเรื่องโครงสร้างผู้ถือหุ้น นอกจากนั้นสื่อของปักกิ่งยังระบุว่า จีนไม่มีทางอนุมัติดีลที่เอารัดเอาเปรียบบริษัทแดนมังกรเด็ดขาด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ เมื่อวันจันทร์ (21 ก.ย.) ว่า ไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อก จะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับติ๊กต็อกโกลบัล ไม่เช่นนั้นจะไม่มีการตกลงใดๆ ทั้งสิ้น และสำทับว่า ออราเคิลและวอลมาร์ท ซึ่งเป็นกิจการของอเมริกา จะต้องได้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ควบคุมในบริษัทใหม่แห่งนี้ และกิจกรรมทั้งหมดจะต้องเข้าสู่ระบบคลาวด์ที่ดำเนินการและควบคุมเบ็ดเสร็จโดยออราเคิล

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทรัมป์กลับกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อตกลงมีความคืบหน้าและคณะบริหารเห็นชอบในเบื้องต้น

ทว่า ก่อนหน้านั้น ไบต์แดนซ์ที่ยังถูกรัฐบาลจีนกดดันเช่นกันไม่ให้ยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องของวอชิงตัน แถลงว่าบริษัทจะถือหุ้นในติ๊กต็อกโกลบัล 80% หลังการนำหุ้นออกขายต่อสาธารณชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ส่วนออราเคิลและวอลมาร์ทจะถือหุ้น 12.5% และ 7.5% ตามลำดับ และย้ำว่า ไม่มีแผนถ่ายโอนอัลกอริธึมและเทคโนโลยีให้แก่พันธมิตรอเมริกันตามที่ลือกัน

แต่คำแถลงจากฝั่งออราเคิลกลับตรงกันข้ามโดยมีเนื้อความระบุว่า หลังจากก่อตั้งติ๊กต็อกโกลบัล แล้ว ออราเคิลและวอลมาร์ทจะอัดฉีดเงินทุนและร่วมกันถือหุ้นในบริษัทใหม่ โดยบริษัทอเมริกันจะถือหุ้นใหญ่ และไบต์แดนซ์จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทแห่งนี้ นอกจากนั้นสมาชิกคณะกรรมการบริหาร 4 ใน 5 จะเป็นคนอเมริกัน

ติ๊กต็อก ซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลก กลายเป็นเป้าหมายล่าสุดในการเผชิญหน้าในสมรภูมิดิจิตอลระหว่างอเมริกากับจีน โดยก่อนหน้านี้ “หัวเว่ย” ถูกวอชิงตันขึ้นบัญชีดำด้วยข้อหาเดียวกันคือเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ขณะที่ซูเปอร์แอป “วีแชต” รอดพ้นคำสั่งแบนในอเมริกาหวุดหวิดอย่างน้อยในขณะนี้ ภายหลังศาลชั้นต้นสหรัฐฯตัดสินให้ระงับการห้ามเอาไว้เป็นการชั่วคราว

นักวิเคราะห์บางคนไม่แน่ใจว่า ข้อตกลงเรื่องติ๊กต็อกจะสามารถเป็นที่ถูกอกถูกใจทั้งฝ่ายอเมริกาและจีนได้อย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นส์ในนิวยอร์กชี้ว่า การเดินหมากของทรัมป์ต่อติ๊กต็อกและบริษัทไฮเทคจีนแห่งอื่นๆ ถูกชาวแดนมังกรจำนวนมากมองว่า “ชั่วร้าย” และกลายเป็นการโหมกระพือลัทธิชาตินิยมมุ่งสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นในจีน

บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ ที่เผยแพร่เมื่อคืนวันจันทร์ชี้ว่า ปักกิ่งอาจขัดขวางข้อตกลงติ๊กต็อก พร้อมประณามว่า พฤติกรรมการรังแกและตรรกะอันธพาลของวอชิงตันเป็นอันตรายต่อความมั่นคง ผลประโยชน์ และศักดิ์ศรีของจีน

โกลบัลไทมส์ ซึ่งเป็นกิจการในเครือของ เหรินหมินรึเป้า (พีเพิลส์เดลี่) ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังสำทับในบทบรรณาธิการชิ้นนี้ว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการขู่เข็ญของอเมริกา และจะไม่ยอมรับสัญญาที่ไม่เป็นธรรมซึ่งพุ่งเป้าที่บริษัทจีน

นอกจากนั้น หู สีจิน บรรณาธิการใหญ่ของโกลบัลไทมส์ ยังทวิตว่า จากข้อมูลของทางฝั่งอเมริกา ข้อตกลงนี้ไม่มีความเป็นธรรมแต่มุ่งตอบสนองข้อเรียกร้องไร้เหตุผลของวอชิงตัน ทำให้ยากที่จะเชื่อว่า ปักกิ่งจะอนุมัติข้อตกลง

จนถึงขณะนี้รัฐบาลจีนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับรายละเอียดข้อตกลงของติ๊กต็อก จะมีก็แต่กระทรวงการต่างประเทศที่ย้ำว่า อเมริกาควรนำเสนอบรรยากาศที่เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติต่อบริษัทต่างชาติ

บทบรรณาธิการของโกลบัลไทมส์ยังค่อนแคะว่า การส่งตัวแทนจากบริษัทอเมริกันถึง 4 ใน 5 เป็นสมาชิกบอร์ดติ๊กต็อกโกลบัล รวมทั้งต้องผ่านความเห็นชอบจากวอชิงตัน ทำให้บอร์ดดังกล่าวกลายเป็น “คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ” ของสหรัฐฯมากกว่า

แท็บลอยด์จีนฉบับนี้ประณามการบังคับให้ไบต์แดนซ์ต้องเปิดเผยรหัสต้นทางกับออราเคิลว่า เท่ากับเป็นการปูทางให้บริษัทอเมริกันเข้าถึงการดำเนินการของ “ตู้หยิน” ซึ่งเป็นแอปวิดีโอสั้นของไบต์แดนซ์ในจีน และเป็นต้นแบบของติ๊กต็อกที่อยู่นอกแดนมังกร ทั้งนี้ตู้หยินกับติ๊กต็อกนั้นใช้รหัสต้นทางเดียวกัน

บทบรรณาธิการทิ้งท้ายว่า ถ้าการปรับโครงสร้างติ๊กต็อกภายใต้การจัดการของอเมริกากลายเป็นรูปแบบมาตรฐาน เท่ากับว่าต่อไปบริษัทจีนที่ประสบความสำเร็จและขยายเข้าสู่อเมริกาจะต้องถูกวอชิงตันเพ่งเล็งและแปลงเป็นบริษัทที่อเมริกาเป็นผู้ควบคุมผ่านกลโกงและการบีบบังคับที่สุดท้ายแล้วมุ่งตอบสนองผลประโยชน์ของอเมริกาเท่านั้น