หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของจีนระบุวานนี้ (21 ก.ย.) ว่า ข้อตกลงที่ไบต์แดนซ์ทำร่วมกับ ออราเคิล คอร์ป และ วอลมาร์ท อิงค์ เพื่อสานต่ออนาคตของแอปฯ แชร์วิดีโอ TikTok ในสหรัฐฯ “มีโอกาสน้อยมาก” ที่จะได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลปักกิ่ง
ไบต์แดนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok ในจีน ประกาศแผนจัดตั้งบริษัทใหม่ในนาม “TikTok Global” ขึ้นในอเมริกา โดยมีสองยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันอย่างออราเคิล และ วอลมาร์ท ถือหุ้นบางส่วน และบริษัทที่ว่านี้จะถูกบริหารจัดการโดยหุ้นส่วนอเมริกันเป็นหลัก เพื่อตอบสนองข้อกังวลของรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขู่จะสั่งแบนแอปฯ แชร์วิดีโอยอดฮิตด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
“เงื่อนไขเหล่านี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงพฤติกรรมข่มขู่ และตรรกะแบบนักเลงอันธพาลของวอชิงตัน พวกเขามีเจตนาทำลายความมั่นคง ผลประโยชน์ และเกียรติภูมิของชาติจีน” บทบรรณาธิการภาคภาษาอังกฤษของโกลบอลไทม์สที่เผยแพร่เมื่อค่ำวานนี้ (21) ระบุ
ผู้เขียนซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนยังคัดค้านเงื่อนไขที่ระบุว่า ที่นั่งบอร์ดบริหาร 4 ใน 5 คนของ TikTok Global จะต้องถูกสงวนไว้สำหรับชาวอเมริกัน โดยเหลือให้ชาวจีนเพียง 1 ที่นั่ง รวมถึงจะต้องมีผู้อำนวยการด้านความมั่นคงแห่งชาติ (national security director) ที่รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองเข้าไปนั่งอยู่ด้วย
สื่อจีนฉบับนี้ยังไม่เห็นด้วยที่ไบต์แดนซ์ต้องยินยอมให้ออราเคิลเข้าถึงรหัสต้นฉบับ (source code) ของ TikTok และต้องแยกการบริหารจัดการระหว่าง TikTok กับโต่วอิน (Douyin) ซึ่งเป็นแอปฯ แชร์วิดีโอที่ให้บริการในจีน
“เนื่องจาก TikTok และ Douyin ควรจะมีรหัสต้นฉบับเดียวกัน นั่นหมายความว่าสหรัฐฯ จะสามารถล่วงรู้ถึงปฏิบัติการของ Douyin ด้วย” บทบรรณาธิการระบุ
“ถ้าแผนปรับโครงสร้าง TikTok ตามแรงบีบของสหรัฐฯ ถูกใช้เป็นบรรทัดฐานต่อไป นั่นหมายความว่า เมื่อใดก็ตามที่มีบริษัทจีนที่ประสบความสำเร็จขยายธุรกิจเข้าไปยังสหรัฐฯ และมีศักยภาพด้านการแข่งขันสูง ก็จะถูกรัฐบาลอเมริกันข่มขู่เล่นงานจนต้องแปรสภาพเป็นบริษัทที่ชาวอเมริกันควบคุม และสร้างผลประโยชน์ให้กับสหรัฐฯ ฝ่ายเดียว”
โกลบอลไทม์สเป็นสื่อแท็บลอยด์ในเครือหนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทว่าความเห็นต่างๆ ของสื่อนี้ก็ไม่ได้สะท้อนมุมมองของรัฐบาลปักกิ่งเสมอไป
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไบต์แดนซ์และออราเคิลได้ประกาศบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจที่น่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับทรัมป์ หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ เคยขู่ให้ไบต์แดนซ์ต้องยอมขายกิจการ TikTok ในอเมริกาภายใน 90 วัน มิเช่นนั้นก็จะต้องถูกแบน
อย่างไรก็ตาม คู่เจรจาทั้ง 2 ฝ่ายยังคงให้ข้อมูลที่แตกต่างกัน โดยฝั่งไบต์แดนซ์นั้น อ้างว่า TikTok Global จะเป็น “บริษัทในเครือ (subsidiary)” ที่ไบต์แดนซ์ถือหุ้นใหญ่ 80% หลังการขายเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในขณะที่ออราเคิลระบุว่าความเป็นเจ้าของจะถูกแจกจ่ายไปยังนักลงทุนอเมริกันที่ถือหุ้นในไบต์แดนซ์ และตัวไบต์แดนซ์เองจะไม่ได้เป็นเจ้าของ TikTok Global
ทั้งนี้ ข้อตกลงปรับโครงสร้าง TikTok จะมีผลก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากผู้คุมกฎทั้งในสหรัฐฯ และจีน
ที่มา: รอยเตอร์
