ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันพุธ (16 ก.ย.) เผยว่า ยังไม่พร้อมเห็นชอบข้อตกลงที่บริษัทแห่งหนึ่งของอเมริกาจะเข้าเป็นหุ้นส่วนกับไบต์แดนซ์ บริษัทจีนที่เป็นเจ้าของแอปพลิเคชันติ๊กต็อก ซึ่งจะเปิดทางแอปพลิเคชันนี้ให้บริการผู้ใช้ในสหรัฐฯได้ต่อไป
หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ บอกว่า ออราเคิล “ใกล้มาก” ที่จะบรรลุข้อตกลงกลายเป็น “ผู้มอบเทคโนโลยีที่ไว้วางใจได้” แก่แอปพลิเคชันติ๊กต็อก เงื่อนไขที่เป็นไปตามความต้องการของวอชิงตัน เพื่อปัดเป่าความกังวลว่า ติ๊กต็อก คือภัยความมั่นคงแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ เปิดเผยในวันพุธ (16 ก.ย.) ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่บรรลุ แต่เขาบอกว่าจะประชุมกับบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับประเด็นนี้ในวันพฤหัสบดี (17ก.ย.)
“ตราบใดที่มีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ มันจำเป็นต้อง 100% และไม่ ผมไม่ได้เตรียมการลงนามอนุมัติใดๆ ผมจำเป็นต้องเห็นข้อตกลงก่อน” ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวก่อนถึงเส้ยตายในวันที่ 20 กันยายน ที่เขาขีดให้ ไบต์แดนซ์ ขายปฏิบัติการของติ๊กต็อกในสหรัฐฯ หรือไม่งั้นก็จำเป็นต้องยุติกิจการในอเมริกา
ทรัมป์บอกด้วยว่า เขาคัดค้านข้อตกลงหนึ่งที่สื่อมวลชนหลายสำนักรายงานว่า ไบต์แดนซ์ จะยังคงถือหุ้นใหญ่ในบริษัทและออราเคิล คือ ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย “เราไม่ชอบความคิดนั้นเลย ผมบอกกับคุณได้เลยว่า ผมไม่ชอบ” ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าว
บลูมเบิร์กอ้างแหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามรายงานก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ว่า ข้อเสนอของ ออราเคิล ไม่พอที่จะจัดการกับความกังวลของรัฐบาลทรัมป์ในด้านความมั่นคงแห่งชาติ แม้ข้อตกลงยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานว่า ไบต์แดนซ์ จำเป็นต้องวางศูนย์กลางธุรกิจนานาชาติของติ๊กต็อก ในบริษัทแห่งใหม่ซึ่งจะมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ โดยมี ออราเคิล ร่วมลงทุนในฐานะผู้ถือหุ้นส่วนน้อย เช่นเดียวกับผู้ลงทุนสหรัฐฯรายอื่นๆ
เรื่องราวของติ๊กต็อกพลิกไปพลิกมาหลายตลบ โดยในเบื้องต้น ไมโครซอฟต์ ถูกมองว่าคือผู้เหมาะสมที่สุด ก่อนที่ข้อเสนอของพวกเขาจะถูกปฏิเสธ
จากนั้นสื่อสองแห่งของรัฐบาลจีน ได้แก่ ซีจีทีเอ็น และไชน่า นิวส์ เซอร์วิส รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหลายรายว่า ไบต์แดนซ์จะไม่ขายกิจการในอเมริกาของติ๊กต็อก ไม่ว่าจะให้แก่ออราเคิลหรือไมโครซอฟต์ รวมทั้งจะไม่ให้ซอร์ซโคดของแพลตฟอร์มนี้แก่บริษัทสหรัฐฯแห่งใดๆ ทั้งสิ้น
ติ๊กต็อก ระบุในถ้อยแถลงว่า “เรายื่นข้อเสนอแก่กระทรวงการคลัง ซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยคลี่คลายความกังวลด้านความมั่นคงของรัฐบาล และเปิดทางให้ผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนในสหรัฐฯ ใช้งานแอปฯได้ต่อไป”
ทรัมป์ เคยเรียกร้องให้ไบต์แดนซ์จ่ายเงินส่วนแบ่งรายได้จากการขายธุรกิจให้กับกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ แต่ในวันพุธ (16 ก.ย.) ประธานาธิบดีรายนี้ยอมรับได้รับคำปรึกษาว่ามันเป็นไปไม่ได้ “ผมต้องการเห็นเงินก้อนใหญ่เข้าสู่รัฐบาลสหรัฐฯ เพราะเราทำให้มันเป็นไปได้ แต่ทนายความบอกกับผมว่า มันไม่มีหนทางทำแบบนั้น เพราะไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน”
(ที่มา:เอเอฟพี)