ผลสำรวจเผยทั่วโลกมอง ‘ทรัมป์’ น่าเชื่อถือน้อยกว่า ‘สีจิ้นผิง-ปูติน’

มาตรการรับมือโควิด-19 ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนทำให้ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ย่ำแย่ในสายตาชาวโลก และเวลานี้คนในชาติพันธมิตรของอเมริกาเองยังมองว่า ทรัมป์ น่าเชื่อถือน้อยกว่าประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย หรือประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเสียอีก

ผลสำรวจความคิดเห็นโดยสถาบันวิจัย พิว รีเสิร์ช เซ็นเตอร์ พบว่า ระดับความนิยมสหรัฐฯ ในประชากรสหราชอาณาจักร, แคนาดา, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย มาถึงจุดตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี

ผู้ตอบแบบสอบถามในสหราชอาณาจักร, สเปน, ฝรั่งเศส และเยอรมนี ให้คะแนน ทรัมป์ พอๆ กับอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ในช่วงที่เสื่อมความนิยมสุดๆ และต่ำมากเมื่อเทียบกับคะแนนนิยมของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา

ประชาชนใน 13 ประเทศชั้นนำที่พิวทำการเก็บข้อมูลยังมองว่ามาตรการตอบสนองโควิด-19 ของสหรัฐฯ ย่ำแย่กว่าจีน, องค์การอนามัยโลก, สหภาพยุโรป หรือแม้กระทั่งรัฐบาลของพวกเขาเองเสียอีก

พิวได้ทำการวิจัยและเก็บข้อมูลใน 13 ชาติพันธมิตรสำคัญที่สุดของอเมริกามานานถึง 20 ปี โดยผลสำรวจล่าสุดนี้ได้จากการโทรศัพท์ไปสอบถามพลเมืองวัยผู้ใหญ่จำนวน 13,000 ในออสเตรเลีย, เบลเยียม, แคนาดา, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน และสหราชอาณาจักร

สาเหตุสำคัญที่คนในประเทศเหล่านี้มอง ทรัมป์ ฝนแง่ลบมากขึ้นก็คือแนวทางการรับมือโควิด-19 โรคระบาดใหญ่ซึ่งคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปเกือบ 200,000 คน และทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 6 ล้านคน

มีผู้ตอบคำถามไม่ถึง 1 ใน 6 ที่คิดว่าสหรัฐฯ รับมือวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้ได้ดี ขณะที่ส่วนใหญ่มองว่าอเมริกาทำผลงานต่อสู้โควิดได้ “ยอดแย่”

มีชาวแคนาดาและยุโรปตะวันตกไม่ถึง 1 ใน 5 ที่เห็นด้วยกับนโยบายต่างประเทศของ ทรัมป์ ส่วนในเบลเยียม, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส และเยอรมนี มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 1 ใน 10 เท่านั้นที่ยัง “เชื่อมั่น” ในตัวผู้นำสหรัฐฯ รายนี้

ผู้ตอบคำถามส่วนใหญ่ระบุว่า พวกเขาเชื่อถือนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ขณะที่ต่ำกว่าครึ่งเล็กน้อยเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ในทางตรงกันข้ามคะแนนนิยมของ ทรัมป์ กลับแย่เสียยิ่งกว่า ปูติน และ สีจิ้นผิง

สถาบันวิจัยพิวยอมรับว่า ผลสำรวจครั้งก่อนๆ ได้รวมความคิดเห็นของประชากรในอินเดีย, อิสราเอล, เคนยา, ไนจีเรีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ ทรัมป์ ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ทว่าครั้งนี้ไม่สามารถไปเก็บข้อมูลได้เนื่องจากติดปัญหาโรคระบาด

ในสหรัฐฯ เอง ทรัมป์ ก็ยังไม่สามารถเร่งเครื่องกู้คะแนนนิยมให้กลับมาคืนได้ ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนก็จะถึงวันเลือกตั้ง โดยเรตติ้ง ทรัมป์ เวลานี้อยู่ที่ราวๆ 40% ในโพลเกือบทุกสำนัก ต่ำกว่าคะแนนนิยมของ โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และ บิล คลินตัน ในช่วงเวลาเดียวกัน และใกล้เคียงกับ จอห์น บุช ผู้พ่อ ช่วงก่อนที่จะแพ้เลือกตั้งในปี 1992


ที่มา: CNN