น้ำมัน, ทองคำพุ่งขึ้น หุ้นสหรัฐฯทะยาน นักลงทุนหวนเข้าซื้อกลุ่มเทคโนโลยี

ราคาน้ำมันในวันพุธ (9 ก.ย.) พุ่งแรง ฟื้นตัวจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ แต่ยังคงอยู่ภายใต้ความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กัดเซาะความหวังเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานโลก ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก จากแรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำปรับขึ้น หลังดอลลาร์อ่อนค่า

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 38.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันพุธ (9 ก.ย.) มีขึ้น 1 วัน หลังจากเมื่อวันอังคาร (8 ก.ย.) ทั้งสองสัญญาปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน และสัญญาเบรนต์ ขยับลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน

ตลาดน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน แม้ยังคงกังวลเกี่ยวกับวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอินเดีย สหราชอาณาจักร สเปน และหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ

การแพร่ระบาดของโควิด-19 คุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และลดอุปสงค์พลังงาน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (9 ก.ย.) ปิดบวก นักลงทุนหวนเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี หนึ่งวันหลังจากแนสแดคยืนยันเข้าสู่เขตปรับฐาน (correction territory)

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 493.58 จุด (1.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,940.47 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 67.12 จุด (2.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,398.96 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 293.87 จุด (2.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,141.56 จุด

เทสลา อิงค์ ฟื้นตัว 10.92% หลังทำสถิติปิดลบวันเดียวคิดเป็น % มากสุดเป็นประวัติการณ์หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ส่วนแอปเปิล อิงค์, ไมโครซอฟต์ คอร์ป และแอมะซอน บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด ปิดบวกแต่ละบริษัทอย่างน้อยๆ 3%

นอกจากนี้แล้ว ผู้ชนะอื่นๆ ในช่วงมาตรการหยุดอยู่บ้านสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเฟซบุ๊ก อิงค์และอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล ก็พุ่งทะยานเช่นกัน หนึ่งวันหลังจาก แนสแดค ปิดต่ำกว่าสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 2 กันยายน ถึง 10% หรือที่เรียกกันว่าการปรับฐาน

ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (9 ก.ย.) พุ่งแรง 2 วันติด หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,954.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)