รอยเตอร์ – ผู้นำเกาหลีเหนือเรียกประชุมสมัชชาใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีในช่วงต้นปีหน้า เพื่อจัดทำแผนเศรษฐกิจสำหรับระยะเวลา 5 ปี หลังที่ประชุมคณะกรรมการพรรคได้ชี้ถึงความบกพร่องและความล่าช้าในการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมืองโสมแดง
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอรายงานว่า เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีได้มีมติเรียกประชุมสมัชชาใหญ่ในเดือน ม.ค. “เพื่อแก้ไขนโยบายเชิงกลยุทธ์และยุทธศาสตร์” หลังจากที่ได้มีการทบทวนบทเรียนจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
การประชุมของคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลีมีขึ้นในขณะที่รัฐคอมมิวนิสต์โสมแดงกำลังถูกมรสุมรุมเร้าหลายด้าน ทั้งผลกระทบจากการคว่ำบาตร, การปิดด่านพรมแดน รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ผู้นำ คิม จองอึน ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า เกาหลีเหนือ “กำลังเผชิญความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในหลายแง่มุม” ซึ่งทำให้เป้าหมายด้านเศรษฐกิจหลายอย่าง “ล่าช้าไปมาก และมาตรฐานการครองชีพของประชาชนยังไม่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเท่าที่ควร”
เบนจามิน แคตเซฟฟ์ ซิลเบอร์สไตน์ ผู้ชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเกาหลีเหนือจากสถาบันสติมสันในสหรัฐฯ ระบุว่า แม้รายงานของ KCNA จะไม่ได้ระบุว่าแผนระยะ 5 ปีนั้นอาจมีอะไรบ้าง แต่การเอ่ยถึงคณะกรรมการตรวจสอบ (auditing committee) ก็ทำให้เชื่อได้ว่า รัฐบาลโสมแดงน่าจะกดดันให้ภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของธุรกิจต้องอุดหนุนทรัพยากรให้แก่คลังของรัฐเพิ่มขึ้นอีก
“คำว่าตรวจสอบนั้นมักหมายถึงการเข้าไปเพ่งเล็งเรื่องเงินๆ ทองๆ ขององค์กร, สถาบัน และบริษัทต่างๆ” เขากล่าว “ซึ่งการตรวจสอบเช่นนี้ก็มักจะนำไปสู่การขูดรีดเอาเงินและทรัพยากรเข้ารัฐมากขึ้นด้วย”
คิม จองอึน ได้ประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีเป็นครั้งแรกระหว่างการประชุมสมัชชาพรรคแรงงานเกาหลีซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปีเมื่อปี 2016 ซึ่งในตอนนั้นเขายังรับปากด้วยว่าจะไม่นำอาวุธนิวเคลียร์ออกมาใช้ เว้นเสียแต่อธิปไตยของเกาหลีเหนือจะถูกคุกคามโดยชาติอื่นๆ ที่ครอบครองนิวเคลียร์
ปีที่แล้ว ผู้นำโสมแดงได้ชูนโยบายสร้างเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง (self-reliant economy) เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติที่มุ่งลดทอนรายได้ที่เกาหลีเหนือจะนำไปใช้พัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์