เอเจนซีส์ - โจ ไบเดน ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครต ประกาศเลือกคู่แข่งเก่า คามาลา แฮร์ริส เป็นคู่หูในศึกเลือกตั้งทำเนียบขาว ซึ่งหากชนะจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้รับตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประชดว่า แปลกใจที่ไบเดนเลือกแฮร์ริสที่ผลงานไม่เข้าตากรรมการระหว่างการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตปลายปีที่แล้ว
หลังจากใช้เวลาแรมเดือนในการเลือกเฟ้นคู่หูร่วมทีมท้าทายทรัมป์ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ในที่สุดไบเดนประกาศชื่อวุฒิสมาชิกแฮร์ริส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11)
อดีตรองประธานาธิบดีวัย 77 ปีจากพรรคเดโมแครตผู้นี้บอกว่า แฮร์ริสเป็นนักสู้ใจเด็ดที่ต่อสู้เพื่อประชาชนธรรมดาและเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐที่ดีที่สุดของอเมริกา
การตัดสินใจนี้ซึ่งประกาศผ่านโซเชียลมีเดีย เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญสำหรับไบเดนที่ต้องการสร้างแนวร่วมที่กว้างขวางเพื่อขับไสทรัมป์ออกจากทำเนียบขาว เนื่องจากเห็นกันว่า แฮร์ริส วัย 55 ปี สามารถดึงดูดผู้มีสิทธิ์ออกเสียงหนุ่มสาวและผู้หญิง โดยเฉพาะประชาชนแถบชานเมืองที่ไม่เอาทรัมป์
แฮร์ริส อดีตอัยการรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนแรกที่มีเชื้อสายเอเชีย น และยังเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลาย ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับชัยชนะของเดโมแครต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะเวลาที่อเมริกามีความขัดแย้งด้านเชื้อชาติรุนแรงในขณะนี้
ทางด้าน ซาราห์ แพลิน อดีตผู้ได้รับเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันและผู้สนับสนุนทรัมป์ตัวยง แสดงความยินดีต่อแฮร์ริสและโพสต์คำแนะนำในการหาเสียงยาวเหยียดบนอินสตาแกรม
แฮร์ริสที่ก่อนหน้านี้ ได้ลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีประจำปีนี้แข่งขันกับไบเดน กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมลงศึกครั้งนี้และจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ไบเดนชนะ พร้อมยกย่องว่า ไบเดนที่สู้เพื่ออเมริกันชนมาตลอดชีวิตจะทำให้ประเทศกลับมาปรองดอง และสร้างอเมริกาที่ยึดมั่นต่อค่านิยมของชาติ
สำหรับแฮร์ริส นี่เป็นโอกาสทองทางการเมืองที่สำคัญมาก เพราะหากชนะอาจทำให้เธอกลายเป็นตัวเก็งเต็งหนึ่งในการแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 หรือ 2028
ไบเดนนั้นหากชนะในการเลือกตั้งคราวนี้ จะกลายเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุดขณะเข้ารับตำแหน่ง และมีการคาดเดากันอย่างกว้างขวางว่า ถ้าชนะ เขาจะครองทำเนียบขาวเพียงสมัยเดียวและปูทางให้รองประธานาธิบดีสืบทอดตำแหน่งต่อไป
นอกจากนั้นตัวไบเดนเองยังดูเหมือนเชื่อมั่นว่า แฮร์ริสมีไหวพริบด้านนโยบายและประสบการณ์ในการบริหารจัดการที่จะช่วยในการบริหารประเทศได้ตั้งแต่วันแรก และสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีแทนทันทีหากจำเป็น ขณะที่แฮร์ริสนั้นแสดงออกชัดเจนว่า มีแนวทางเชิงรุกมากกว่าไบเดน
ทางด้านทรัมป์ถือโอกาสประชดทันทีว่า แปลกใจที่ไบเดนเลือกแฮร์ริสที่มีผลงานย่ำแย่ในช่วงการแข่งขันเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต
ผู้นำสหรัฐฯ ยังโจมตีบทบาทของแฮร์ริสในการคัดค้านการรับรองชื่อเบร็ตต์ คาวานอห์ ในตำแหน่งตุลาการศาลสูงสุดว่า เป็นวุฒิสมาชิกที่ใจร้าย น่ากลัว และหยาบคายที่สุด
อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสแสดงให้เห็นชัดเจนว่า สามารถรับมือการโจมตีของทรัมป์ได้และไม่กลัวที่จะพูดในสิ่งที่คิด เช่น ครั้งหนึ่งระหว่างหาเสียงเพื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เธอวิจารณ์ทรัมป์ว่าเป็น “อาชญากร” ที่อาศัยอยู่ในทำเนียบขาว
อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาจากพรรคเดโมแครตที่เป็นประมุขผิวสีคนแรกของอเมริกา สนับสนุนการตัดสินใจของไบเดนโดยชมว่า แฮร์ริสยิ่งกว่าพร้อมสำหรับงานนี้
พ่อแม่ของแฮร์ริสต่างเป็นผู้อพยพต่างชาติเข้ามาตั้งหลักแหล่งในอเมริกา โดยพ่อมาจากจาไมกา และแม่จากอินเดีย เธอเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นอัยการรัฐแคลิฟอร์เนีย และผู้หญิงผิวสีคนที่สองและผู้หญิงที่สืบเชื้อสายจากเอเชียใต้คนแรกที่ได้เป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ
แฮร์ริสเคยปะทะคารมกับไบเดนระหว่างการโต้วาทีครั้งแรกของผู้สมัครพรรคเดโมแครตเมื่อปีที่แล้ว โดยแฮร์ริสโจมตีไบเดนที่เคยร่วมมือกับวุฒิสมาชิกที่เป็นพวกแบ่งแยกสีผิว และยังคัดค้านการยกเลิกการแบ่งแยกที่นั่งบนรถประจำทางขณะที่โรงเรียนเริ่มยกเลิกแนวทางแบ่งแยกเชื้อชาติในปี 1970
วาทกรรมดังกล่าวส่งให้แฮร์ริสโดดเด่นขึ้นมาในช่วงสั้นๆ แต่ในที่สุดเธอตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วและประกาศสนับสนุนไบเดนในเดือนมีนาคม
ด้านไบเดนแสดงชัดเจนว่า ไม่ได้ติดใจเรื่องดังกล่าว ทั้งยังชมว่า แฮร์ริสเป็นผู้รอบรู้และผู้สมัครเกรดเอ และคู่แข่งขันตัวจริง