รอยเตอร์ – หน่วยงานต่อต้านข่าวกรองสหรัฐฯ พบสัญญาณบ่งชี้ว่ารัสเซีย, จีน และอิหร่าน เริ่มปฏิบัติการแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 โดยรัสเซียพยายามเดินเกมบั่นทอนคะแนนนิยมของ โจ ไบเดน ผู้สมัครตัวเก็งจากพรรคเดโมแครต
วิลเลียม อีวานินา ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวกรองและความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า ทั้ง 3 ชาติใช้วิธีปล่อยข่าวบิดเบือนทางออนไลน์และช่องทางอื่นๆ เพื่อโน้มน้าวใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง, ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และทำให้ชาวอเมริกันหมดความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวได้ถามประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการแถลงข่าวที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ว่า เขาจะมีมาตรการป้องกันการแทรกแซงศึกเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. นี้อย่างไรบ้าง ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่า “เราจะจับตาดูพวกเขาทั้งหมด และจะต้องระมัดระวังอย่างมาก”
ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า ทั้งรัสเซีย, จีน และอิหร่าน คงจะต้องการให้เขาแพ้เลือกตั้ง
ทั้งนี้ ศัตรูต่างชาติอาจจะแทรกแซงระบบเลือกตั้งในสหรัฐฯ โดยโจมตีขั้นตอนการลงคะแนน, ขโมยฐานข้อมูลเลือกตั้ง หรือออกมาตั้งคำถามเรื่องความน่าเชื่อถือของผลเลือกตั้ง
“ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ศัตรูของเราจะเข้ามาแทรกแซงหรือจัดการกับผลเลือกตั้งในสเกลใหญ่ๆ” อีวานินา ยืนยัน
ทรัมป์ ยังคงย้ำความเชื่อเดิมว่า การโหวตทางไปรษณีย์ (mail-in ballots) เสี่ยงที่จะนำไปสู่การโกงเลือกตั้ง
“มันเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะทำบัตรลงคะแนนปลอมและส่งเข้ามา มันง่ายสำหรับพวกเขาที่จะโกงหากมีการโหวตทางไปรษณีย์ระดับชาติ” ทรัมป์ กล่าว โดยอ้างถึงประเทศซึ่งเป็นปรปักษ์กับสหรัฐฯ
ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปตรงกันว่า รัสเซียพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 เพื่อบั่นทอนคะแนนนิยมของ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต และช่วยให้ ทรัมป์ คว้าเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวได้สำเร็จ
ทรัมป์ ยืนยันว่าทีมหาเสียงของเขาไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ ขณะที่มอสโกก็ปฏิเสธเสียงแข็งเรื่อยมา
อีวานินา เตือนวานนี้ (7) ว่า รัสเซียเริ่มแผนการใส่ร้ายป้ายสี โจ ไบเดน และกลุ่ม “เอสแทบลิชเมนต์” ในสหรัฐฯ ที่ต่อต้านแดนหมีขาว โดยอ้างไปถึงนักการเมืองยูเครนโปรรัสเซียที่ชื่อ แอนดรี เดอร์คาช (Andriy Derkach) ซึ่งกำลังเผยแพร่ข่าวลวงเกี่ยวกับพฤติกรรมคอร์รัปชันเพื่อตัดคะแนนนิยมของ ไบเดน และพรรคเดโมแครต
อีวานินา บอกด้วยว่า “ผู้ก่อการที่เชื่อมโยงกับเครมลิน” ยังพยายามโปรโมต ทรัมป์ ผ่านทางโซเชียลมีเดียและสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย
ในส่วนของจีน ศูนย์ต่อต้านข่าวกรองและความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ประเมินว่าปักกิ่งน่าจะหวังให้ ทรัมป์ แพ้เลือกตั้งมากกว่า เพราะมองว่าเขาเป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่เดาทางยากเกินไป
อีวานินา ระบุว่า จีนพยายามใช้อิทธิพลเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายของสหรัฐฯ, กดดันนักการเมืองอเมริกันที่ต่อต้านจีน และเบี่ยงเบนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ปักกิ่ง ในช่วงก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในส่วนของ ‘อิหร่าน’ นั้นมีการใช้กลยุทธ์เผยแพร่ข้อมูลดิสเครดิตสถาบันต่างๆ ของอเมริกาและตัวประธานาธิบดี ทรัมป์ รวมไปถึงยุยงปลุกปั่นให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในอเมริกาเกิดความไม่พอใจรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลเรื่องเทคโนโลยีการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงภายนอกกังวลมากกว่าการแฮกเลือกตั้งก็คือ ความพยายามแพร่ข้อมูลเท็จ รวมถึงปัญหาด้านโลจิสติกส์ อย่างเช่น การมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งไม่เพียงพอ หรือความล่าช้าของไปรษณีย์สหรัฐฯ เป็นต้น