เอเจนซีส์ – หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของโลกในไตรมาส 2/2563 แทนที่บริษัท ซัมซุง ของเกาหลีใต้ โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการของตลาดภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
บริษัทวิจัย Canalys รายงานวันนี้ (30 ก.ค.) ว่า หัวเว่ย มียอดจัดส่งสมาร์ทโฟนสูงถึง 55.8 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะลดลง 5% จากเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังแซงหน้ายอดขายของซัมซุงที่ลดฮวบ 30% เมื่อเทียบรายปีลงมาอยู่ที่ 53.7 ล้านเครื่อง
นับเป็นไตรมาสแรกในรอบ 9 ปีที่ตำแหน่งแชมป์หลุดมือไปจาก ‘ซัมซุง’ และ ‘แอปเปิล’ ซึ่งเป็น 2 แบรนด์ใหญ่ที่ขับเคี่ยวกันอยู่
Canalys ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ มีผลทำให้ธุรกิจของหัวเว่ยนอกจีนแผ่นดินใหญ่ “ชะงักงัน” ไปบ้างก็จริง แต่ยังได้อุปสงค์จากตลาดภายในประเทศมาทดแทน โดยเวลานี้หัวเว่ยจำหน่ายสมาร์ทโฟนกว่า 70% ให้แก่ลูกค้าในแดนมังกร ในขณะที่ซัมซุงเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาดจีนได้น้อยมาก
อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกสมาร์ทโฟนหัวเว่ยไปต่างประเทศในไตรมาสที่แล้วลดลงเกือบ 1 ใน 3 เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่ง โม เจีย นักวิเคราะห์ของ Canalys เตือนว่า แค่ความต้องการของตลาดจีนเพียงอย่างเดียว “ไม่พอที่จะทำให้ หัวเว่ย รั้งแชมป์อันดับ 1 เอาไว้ได้ หากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว”
“หุ้นส่วนในภูมิภาคสำคัญๆ อย่างเช่นยุโรปเริ่มขาดความเชื่อมั่นในอุปกรณ์ของหัวเว่ย โดยหันมาเลือกใช้เพียงไม่กี่รุ่น และมีการนำแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมเพื่อลดความเสี่ยง” โม กล่าว
หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารรายใหญ่ที่สุดของโลกต้องกลายเป็นเหยื่อในสงครามภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยอเมริกานั้นพยายามอ้างภัยคุกคามไซเบอร์จากจีนมาเป็นเหตุผลโน้มน้าวชาติพันธมิตรให้ปฏิเสธอุปกรณ์ของหัวเว่ย
ปีที่แล้ว สหรัฐฯ ได้เพิ่มชื่อหัวเว่ยลงในบัญชีดำ ‘Entity List’ ซึ่งส่งผลให้บริษัทแห่งนี้เข้าถึงเทคโนโลยีอเมริกันได้อย่างจำกัด และไม่สามารถใช้ระบบปฏิบัติการ Google Android ในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ๆ ได้