เอเอฟพี - อิหร่านในวันศุกร์ (24 ก.ค.) ยื่นฟ้องต่อสหประชาชาติ ระบุเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง หลังจากเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ก่อความตื่นตระหนกแก่เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งของอิหร่านที่กำลังบินอยู่เหนือซีเรีย ดินแดนที่ถูกสงครามฉีกขาด
เหตุการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ถือเป็นเหตุกระทบกระทั่งล่าสดระหว่างสองชาติคู่อริ เตหรานกับวอชิงตัน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับบรรดามหาอำนาจโลกในปี 2018 แล้วกลับมาคว่ำบาตรเตหะรานอีกครั้ง
สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่านเผยแพร่คลิปเป็นภาพจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพบเห็นพวกผู้โดยสารพากันส่งเสียงกรีดร้อง ตอนที่นักบินของเครื่องบินสายการบินมาฮานแอร์ เที่ยวจากเตหะรานไปยังเบรุต ต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน
ภาพในวิดีโอพบเห็นผู้โดยสารคนหนึ่งมีเลือดไหลออกจากศีรษะ และอีกคนล้มลงไปกองกับพื้น และพอมองออกนอกหน้าต่าง พบเห็นเครื่องบินขับไล่อยู่ข้างนอก 1 ลำ
ไออาร์เอ็นเอ สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่าจะมีการยื่นหนังสือประท้วงถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ต่อ “ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาฮานแอร์”
ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านเผยว่าพวกเขายังได้ยื่นประท้วงต่อองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานของยูเอ็น และสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ในเตหะราน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านกับสหรัฐฯ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกัน หลังเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติอิสลามในปี 1979
“หากเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินในเที่ยวขากลับ อิหร่านจะให้สหรัฐฯ เป็นผู้รับผิดชอบ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านกล่าว
กองทัพสหรัฐฯ อ้างว่า เครื่องบิน F-15 ปฏิบัติภารกิจทางอากาศตามปกติ โดยดำเนินการตรวจสอบด้วยสายตาเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาฮานแอร์ ตามมาตรฐาน จากระยะที่มีความปลอดภัย ราวๆ 1,000 เมตร
ถ้อยแถลงดังกล่าวจากกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) ซึ่งควบคุมภารกิจของทหารอเมริกันในภูมิภาค มีขึ้นหลังจากสถานีโทรทศน์ของอิหร่านเผยแพร่ภาพบรรดาผู้โดยสารอยู่ในความตื่นตระหนก ตอนที่เครื่องบินมาฮานแอร์กำลังเปลี่ยนเส้นทางอย่างฉับพลัน
ไออาร์เอ็นเอรายงานในเวลาต่อมาว่า นักบินของมาฮานแอร์ได้ติดต่อทางวิทยุกับเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ 2 ลำ ก่อนเครื่องบินจะบินไปลงจอดอย่างปลอดภัยในเมืองหลวงของเลบานอน โดยแหล่งข่าวความมั่นคงในเลบานอน เผยว่ามีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย
แม้กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ยืนยันว่ามันเป็นการเข้าประกบอย่างมืออาชีพ และเป็นไปตามมาตรฐานนานาชาติ แต่ทางสถานีโทรทัศน์อิหร่านเรียกมันว่าเป็นการ “ยั่วยุและอันตราย”
สื่อมวลชนแห่งรัฐของซีเรียระบุว่าเครื่องบินของสหรัฐฯ เข้าประกบเครื่องบินของสายการบินอิหร่านเหนือเขตอัล-ทานฟ์ ตามแนวชายแดนใกล้กับจอร์แดนและอิรัก บีบให้เครื่องบินต้องลดระดับลงอย่างรุนแรง