เอเจนซีส์ – อิหร่านล่าสุดออกมายอมรับว่า หลังจากที่โรงงานนิวเคลียร์ที่นาตานซ์เกิดเหตุทำให้เกิดผลกระทบเป็นอย่างมากต่อกระบวนการผลิตเครื่องหมุนเหวี่ยงก้าวหน้าที่สหรัฐฯและอิสราเอลเห็นเป็นตัวอันตราย
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(5 ก.ค)ว่า อิหร่านได้ออกมายอมรับล่าสุดว่า เหตุเกิดที่หนึ่งในไซต์ของโรงงานนิวเคลียร์หลักในนาตานซ์ (Natanz) สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นสามารถทำให้กระบวนการผลิตเครื่องหมุนเหวี่ยงก้าวหน้า(centrifuge) ที่ทั้งสหรัฐฯและอิสราเอลมองเทคโนโลยีนี้เป็นภัยคุกคาม ส่งให้มีการยิ่งตั้งข้อสงสัยว่าเหตุที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการโจมตีที่มีการวางแผนมาอย่างดี
ภาพถ่ายดาวเทียมที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดย อิหร่าน อินเตอร์เนชันแนล(Iran International) สำนักข่าวอิหร่านที่มีฐานในกรุงลอนดอนแสดงให้เห็นว่า มีความเสียหายจุดเกิดเหตุหนักกว่าที่ทางการอิหร่านได้เคยแถลงไว้ก่อนหน้า
เป็นภาพอาคารที่ถูกระเบิดไปเกือบหมดในเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี(2) และทิ้งร่องรอยเขม่าดำให้เห็นรวมไปถึงเศษซากกระจัดกระจายไปทั่วที่ชี้ว่า อาจเกิดมาจากการระเบิดขนาดใหญ่
โดยในครั้งแรกเจ้าหน้าที่อิหร่านอ้างว่า เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในโกดังแห่งหนึ่งของโรงงานผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะของตัวเองที่นาตานซ์(Natanz) ตั้งอยู่ในจังหวัดอิซฟาฮาน( Isfahan) แต่นักวิเคราะห์อเมริกันและยุโรปต่างชี้ว่า เป็นที่ตั้งการผลิตอุปกรณ์หมุนเหวี่ยงเทคโนโลยีชั้นสูงที่จะทำให้ยูเรเนียมกลายเป็นพลังงานนิวเคลียร์นั้นอยู่ในระหว่างกำลังพัฒนา
โดยโฆษกขององค์การพลังงานนิวเคลียร์อิหร่านออกมาแสดงการยืนยันในวันอาทิตย์(5)ว่า ไฟที่ไหม้จะทำให้เกิดความล่าช้าแก่การพัฒนาและการผลิตเครื่องหมุนเหวี่ยงแบบก้าวหน้าของเตหะรานในช่วงระยะกลางไป แต่เตหะรานจะสร้างอาคารที่ใหญ่กว่าเดิมขึ้นมาแทนที่จะมาพร้อมกับเครื่องมือที่มีความทันสมัยมากกว่านี้
ทั้งนี้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในวันอังคาร(30 มิ.ย)ว่า เครื่องหมุนเหวี่ยงแบบก้าวหน้าของอิหร่านจะช่วยให้เตหะรานสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้เร็วขึ้นกว่า 50 เท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบันหากสำเร็จ
การเกิดเหตุที่นาตานซ์วันพฤหัสบดี(2)ตามมาด้วยเหตุอีก 2 ครั้งที่ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุทางอุตสาหกรรมในวันเสาร์(4)ที่มาพร้อมกับไฟไหม้และระเบิดที่จุดอื่นของอิหร่านที่ทำให้มีการเกิดทฤษฎีว่าในเวลานี้เตหะรานกำลังตกเป็นเป้าโจมตีที่มีรัฐต่างชาติให้การสนับสนุนเบื้องหลัง เดอะการ์เดียนกล่าว
รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เบนนีย์ แกนต์ซ แถลงเช้าวันอาทิตย์(5)ว่า “ไม่ใช่ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านนั้นจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเรา” และเสริมว่า “ทุกระบบเหล่านั้นที่มีความซับซ้อนย่อมมีความตรึงเครียดด้านความปลอดภัยสูงและผมไม่มั่นใจว่าอิหร่านนั้นรู้เสมอว่าจะทำการดูแลรักษาเหล่านี้อย่างไร”
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กาบี อัชเคนาซี (Gabi Ashkenazi) ออกมาชี้ว่า อิสราเอลมีนโยบายอย่างยาวนานที่จะไม่อนุญาตให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ในความครอบครอง และเสริมต่อว่า “เป็นการดีกว่าที่จะไม่กล่าวถึงปฎิบัติการของเราในอิหร่าน”
ขณะเดียวกันในวันอาทิตย์(5) หน่วยพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่านที่ทรงอำนาจได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้ทำการสร้างเมืองมิสไซล์ใต้ดินขนานไปตามแนวชายฝั่งอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน ซึ่งเมืองมิสไซล์นี้ถูกสร้างนอกชายฝั่งที่ใต้น้ำด้วยเช่นกัน เดอะการ์เดียนชี้
