เอเอฟพี - ตัวเลขคนว่างงานของสวีเดนแตะระดับเกือบ 10% ในเดือนมิถุนายน สูงสุดในนับตั้งแต่ปี 1998 สืบเนื่องจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แม้ประเทศแห่งนี้เลือกยุทธศาสตร์แตกต่างจากชาติอื่นๆ ไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองระหว่างเกิดการระบาดใหญ่ จากการเปิดเผยของสำนักงานสถิติแห่งชาติสวีเดนในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.)
รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติสวีเดน ระบุว่า ตัวเลขคนว่างงานในหมู่ประชากรอายุ 16 ถึง 64 ปี ที่ปรับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลออกแล้ว แตะระดับ 9.4% ในเดือนมิถุนายน ทุบสถิติเดิม 9% ซึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2010 หลังวิกฤตการเงินโลก
อัตราคนว่างงานในสวีเดนถือว่าพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากในเดือนมกราคม ยังอยู่ที่ 7.2% ก่อนขยับขึ้นมาแตะระดับ 8.6% ในดเอนพฤษภาคม
ตัวเลขคนว่างงานสูงสุดตลอดกาลของสวีเดน ต้องย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 1997 โดยคราวนั้นอยู่ที่ 11.7% ในช่วงท้ายของวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงที่เล่นงานสวีเดนในช่วงทศวรรษ 1990
ในส่วนของข้อมูลที่ยังไม่ปรับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาล พบว่าสวีเดนมีผู้หางาน 557,000 คนในเดือนมิถุนายน มากกว่าหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ราวๆ 150,000 คน
จากข้อมูลพบว่าคนหนุ่มสาวเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด โดยเยาวชนที่ตกงานแตะระดับมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1993
หากนับเฉพาะกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 24 ปี ตัวเลขว่างงานที่ปรับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลออกแล้ว พุ่งแตะระดับ 28% เพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 20.4% ในเดือนมกราคม
ข้อมูลพบว่า มีคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 25 ปี ขึ้นทะเบียนคนว่างงานราว 173,000 คน มากกว่าช่วงก่อนหน้าที่สวีเดนจะถูกโรคระบาดใหญ่เล่นงาน ถึง 50,000 คน
เดวิด ซามูเอลส์สัน จากสำนักงานสถิติแห่งชาติสวีเดน บอกว่า ตัวเลขคนว่างงานที่พุ่งขึ้นในเบื้องต้น สืบเนื่องจากคนงานเหล่านั้นเป็นพนักงานสัญญาชั่วคราวและไม่ได้รับการขยายสัญญาออกไป พร้อมบอกว่าเยาวชนผู้ตกงานยังได้รับผลกระทบจากตำแหน่งงานที่ลดลงในช่วงฤดูร้อนด้วย
สวีเดนเลือกหนทางต่างจากประเทศอื่นๆ ในยุโรป โดยพวกเขาไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมือง ในระหว่างเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยยังคงอนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ เปิดดำเนินการได้ต่อไปเป็นส่วนมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากผลลัพธ์ซึ่งเกิดขึ้นจนถึงเวลานี้ ปรากฏว่า เศรษฐกิจสวีเดนทำท่าถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักหน่วงจากโรคระบาดใหญ่ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากชาติอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาพึ่งพิงการส่งออกเป็นอย่างมาก ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยเฉพาะในหมู่คนชราที่พุ่งสูงลิ่วยิ่งกว่า
วิธีการที่สวีเดนใช้รับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น บรรดาสถานบริการที่มีผู้คนชุมนุมแออัดกัน ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่, บาร์, ภัตตาคารร้านอาหาร รวมทั้งธุรกิจต่างๆ ส่วนใหญ่ต่างยังคงเปิดทำการได้ เช่นเดียวกับโรงเรียนสถานศึกษาสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ถึงแม้มีการเรียกร้องแข็งขันให้ประชาชนทำตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมและคำแนะนำด้านสุขอนามัยทั้งหลาย เช่น การล้างมือบ่อยๆ
จากข้อมูลจนถึงวันพุธ (22 ก.ค.) สวีเดนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 78,504 คน และเสียชีวิต 5,667 ราย ในชาติที่มีประชากรราวๆ 10 ล้านคน
ในเดนมาร์ก ชาติเพื่อนบ้าน ซึ่งใช้มาตรการล็อกดาวน์อันเข้มงวด จนไม่พบเห็นยอดผู้ติดเชื้อในระดับเดียวกัน ตัวเลขคนว่างานแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ในเดือนพฤษภาคม อยูู่ที่ 5.6% ดีดตัวขึ้นจากระดับ 3.7 ในเดือนกุมภาพันธ์
ส่วนที่ นอร์เวย์ ตัวเลขคนว่างงานอยู่ที่ 4.9% ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.8% ในเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้ ในส่วนของการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น คาดหมายกันว่า สวีเดน ก็อาจได้รับผลกระทบหนักหนากว่าประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน โดยประมาณการณ์ว่าจีดีพีของสวีเดนจะหดตัว 6% ในปีนี้ ส่วน นอร์เวย์ และ เดนมาร์ก คาดหมายว่า จะหดตัว 3.5% และ 4.1% ตามลำดับ