รอยเตอร์ – ชาวสิงคโปร์พร้อมใจสวมหน้ากากและถุงมือเข้าคูหากาบัตรลงคะแนนในศึกเลือกตั้งทั่วไปเช้าวันนี้ (10 ก.ค.) ซึ่งจัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจสิงคโปร์เข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง โดยหนึ่งในประเด็นทางสังคมที่ผู้คนคาดหวังจากรัฐบาลชุดใหม่ก็คือเรื่องเศรษฐกิจและการจ้างงาน
นักวิเคราะห์เชื่อว่า พรรคกิจประชาชน (People’s Action Party – PAP) ซึ่งผูกขาดอำนาจบริหารมาตั้งแต่สิงคโปร์ได้รับเอกราชในปี 1965 คงจะชนะศึกเลือกตั้งอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ได้รับอาณัติใหม่จากประชาชนกลับมาเป็นหัวหน้ารัฐบาลอีกสมัย
เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งมีมาตรการควบคุมการเว้นระยะห่างและตรวจวัดอุณหภูมิผู้ใช้สิทธิ์ก่อนจะเดินเข้าคูหา โดยเปิดให้ผู้สูงอายุได้ลงคะแนนเป็นกลุ่มแรกในช่วงเช้าเพื่อป้องกันความแออัด
“เราเลือกพรรค PAP เพราะเห็นผลงานที่พวกเขาทำเพื่อประชาชนตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็เข้าใจว่าคนรุ่นใหม่ๆ อาจจะมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง” นาง ฝู วัย 75 ปี ซึ่งเดินทางมาใช้สิทธิ์พร้อมกับสามีวัย 80 ปี ให้สัมภาษณ์ “พวกเราก็แก่แล้ว ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายหรอก”
ลี เซียนลุง ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของ ลี กวน ยู บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ ครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2004 และด้วยวัยที่ล่วงเลยเข้าปีที่ 68 ทำให้ ลี ประกาศเจตนารมณ์ส่งไม้ต่อให้แก่ผู้นำรุ่นใหม่ของ PAP ภายในอนาคตอันใกล้
ผลการเลือกตั้งคราวนี้ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะเป็นดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของประชาชนต่อมาตรการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาล และความนิยมในตัวผู้นำพรรค PAP รุ่นใหม่แล้ว ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแง่ของระดับความนิยมในพรรค PAP แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่การปรับเปลี่ยนนโยบายสำคัญๆ ได้
รัฐบาล ลี เซียนลุง เคยชนะศึกเลือกตั้งปี 2011 ด้วยคะแนนโหวตเพียงร้อยละ 60 ซึ่งถือว่าตกต่ำเป็นประวัติการณ์ สื่บเนื่องจากปัญหาผู้อพยพและการจ้างงาน ซึ่งทำให้รัฐบาลประกาศแก้ไขกฎระเบียบด้านการว่าจ้างชาวต่างชาติให้เข้มงวดรัดกุมเพื่อบรรเทาความกังวลของประชาชน
วันนี้เมื่อสิงคโปร์ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่จากพิษโควิด-19 ความวิตกกังวลในประเด็นเดิมๆ จึงหวนกลับมาอีกครั้ง
“ประเด็นที่ดิฉันห่วงมากที่สุดก็คือเรื่องสาธารณสุข, ความมั่นคงทางอาชีพ และการเกษียณอายุ” มาลินี นาธาน วัย 42 ปี ผู้บริหารของบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด Edelman ให้สัมภาษณ์
ผลการนับคะแนนเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มประกาศหลังจากที่ปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และน่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการได้ในช่วงเช้ามืดวันเสาร์ (11)
11 พรรคการเมืองได้ส่งผู้สมัครลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งคราวนี้ แต่นักวิเคราะห์การเมืองสิงคโปร์มองว่า พรรคฝ่ายค้านยังแค่ต้องการเช็คเรตติ้งของ PAP มากกว่าจะเสนอตัวเป็นทางเลือกจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างจริงจัง
“การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก เพราะผู้คนต่างก็สนใจและอยากจะมีส่วนแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์” สุไฮลา ชัยค์ วัย 27 ปี ให้สัมภาษณ์
สิงคโปร์ไม่ใช่ประเทศแรกที่จัดการเลือกตั้งท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ก่อนหน้านี้ ‘เกาหลีใต้’ ก็เคยเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในช่วงเดือน เม.ย. และด้วยจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพียง 2.65 ล้านคนในสิงคโปร์ทำให้การนับคะแนนใช้เวลาไม่มาก และทางการสามารถเตรียมมาตรการด้านสุขอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้
