เอเอฟพี – ลี เซียนหยาง น้องชายแท้ๆ ของนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง แห่งสิงคโปร์ ยืนยันวันนี้ (24 มิ.ย.) ว่าตนได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นความท้าทายล่าสุดที่พรรครัฐบาลสิงคโปร์ต้องเผชิญก่อนจะถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค.
นายกรัฐมนตรี ลี ได้ประกาศยุบสภาเมื่อวันอังคาร (23) และกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ในขณะที่เศรษฐกิจและสังคมสิงคโปร์ยังคงซวนเซจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดหนักในกลุ่มแรงงานต่างด้าว
พี่น้องตระกูล ลี มีความบาดหมางกันมานาน โดยมูลเหตุความขัดแย้งมาจากเรื่องการจัดการมรดกซึ่งเป็นบ้านพักอายุนับร้อยปีของครอบครัว หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวน ยู บิดาผู้ก่อตั้งรัฐสิงคโปร์ ได้ถึงแก่อสัญกรรมไปเมื่อปี 2015
ลี เซียนหยาง และ ลี เว่ยหลิง กล่าวหานายกฯ ลีผู้เป็นพี่ชายคนโตว่าลุแก่อำนาจและขัดคำสั่งบิดา ซึ่งได้สั่งเสียลูกๆ ให้รื้อบ้านหลังนี้ทิ้ง เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิด “ลัทธิบูชาบุคคล” ขึ้นหลังจากที่ตนตายไปแล้ว ทว่านายกฯ ลี กลับไม่ทำตามคำสั่ง ซึ่งทำให้น้องๆ มองว่าเขากำลังเอาสมบัติของพ่อมาแสวงหาผลประโยชน์
ลี เซียนหยาง วัย 62 ปี ได้ไปพบกับ ตัน เช็ง บ็อก (Tan Cheng Bock) หัวหน้าพรรคสิงคโปร์ก้าวหน้า (PSP) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดเผยว่าตนได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคแล้ว
“ผมตัดสินใจเข้าร่วมพรรค เพราะคิดว่า ตัน มีความตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประเทศสิงคโปร์และประชาชนชาวสิงคโปร์ เขารักประเทศนี้และได้รวบรวมสมัครพรรคพวกอีกหลายคนที่มีแนวคิดตรงกัน” ลี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม ลี เซียนหยาง ยังไม่ยืนยันว่าจะลงสมัคร ส.ส. ด้วยหรือไม่
ด้านนาย ตัน ซึ่งเคยเป็น ส.ส. ฟากรัฐบาลพรรคกิจประชาชน (PAP) มาก่อน กล่าวว่า ลี เซียนหยาง “ไม่ใช่คนธรรมดาๆ”
“บิดาของเขาคือผู้ก่อตั้งชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ” ตัน กล่าว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า พรรค PSP ของ ตัน ที่เพิ่งจะก่อตั้งเมื่อปีที่แล้วคงไม่สามารถล้ม PAP ที่ผูกขาดอำนาจปกครองมานานหลายสิบปีได้ แต่การได้ ลี เซียนหยาง มาเป็นสมาชิก บวกกับบารมีของ ตัน เองก็น่าจะดึงคะแนนจากฐานเสียงของรัฐบาลได้บ้างบางส่วน