xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อใหม่วันละกว่า 6 หมื่นราย แต่ทรัมป์เดินหน้ายื่นถอนตัวจาก WHO เป็นทางการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นพ.โจเซฟ แวรอน (ขวา) นำทีมบุคลากรทางการแพทย์ พยายามรักษาชีวิตของคนไข้ผู้หนึ่ง ทว่า ไม่ประสบความสำเร็จ ณ หน่วยไวรัสโคโรนา ของศูนย์การแพทย์ยูไนเต็ด เมโมเรียล เมดิคอล เซนเตอร์ ในเมืองฮิวสตัน รัฐเทกซัส เมื่อวันจันทร์ 6 ก.ค. รัฐเทกซัสกำลังมีคนไข้โควิด-19 ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีแนวคิดขวาจัดของบราซิล ยอมรับติดเชื้อโรคโควิด-19 หลังดื้อแพ่งไม่สวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคมมานานหลายเดือน ขณะที่อเมริกาเริ่มกระบวนการถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการ แม้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันอังคาร (7 ก.ค.) พุ่งทำสถิติใหม่ที่กว่า 60,000 คน ส่วนออสเตรเลียเล็งชะลอการรับพลเมืองกลับประเทศระหว่างการควบคุมการระบาดรอบสองในเมืองเมลเบิร์น

การถอนตัวของอเมริกามีขึ้นในวันเดียวกับที่องค์การอนามัยโลกกล่าวในการแถลงข่าวประจำวัน ยอมรับมีหลักฐานบ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนาอาจแพร่กระจายทางอากาศได้นานและไกลกว่าที่เคยคาดไว้ ทำให้โรคนี้ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 11.8 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 540,000 คนทั่วโลก

ในวันอังคาร (7) เช่นกัน ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล ให้สัมภาษณ์ทางทีวีโดยยังคงไม่ยอมสวมหน้ากากว่า แม้ตรวจพบว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 แต่ตนมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยและรู้สึกสบายดี

ผู้นำขวาจัดแดนแซมบ้าเพิกเฉยต่อมาตรการป้องกันไวรัสมาตลอด ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคมและการสวมหน้ากากคาดปิดปากปิดจมูก ถึงแม้บราซิลเป็นประเทศที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดอันดับ 2 ของโลกรองจากอเมริกา ด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิตกว่า 66,000 คน

ที่วอชิงตัน เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเผยว่า อเมริกาได้แจ้งต่อ อันโตนิโอ กูเตียเรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ว่าต้องการถอนตัวจาก WHO ซึ่งเป็นองค์กรชำนัญพิเศษด้านสาธารณสุขของยูเอ็น โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 กรกฎาคมปีหน้า

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์การรับมือโรคระบาดโควิด-19 ของ WHO และกล่าวหาองค์การอนามัยโลกว่า เอนเอียงเข้าข้างจีน อีกทั้งเพิกเฉยต่อสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า โรคนี้สามารถติดต่อระหว่างคนได้

อเมริกาเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ที่สุด โดยสมทบทุนให้ WHO ปีละ 400 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของทรัมป์ถูกมองกันอย่างกว้างขวางว่า เป็นความพยายามที่จะป้ายความผิดไปที่คนอื่น เพื่อหันเหความสนใจของชาวอเมริกันให้ออกไปจากความล้มเหลวในการรับมือกับวิกฤตโรคระบาดในสหรัฐฯของตนเอง

ทางด้าน โจ ไบเดน ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ประกาศว่า ถ้าชนะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน จะยกเลิกการถอนตัวจาก WHO

ไวรัสโคโรนาคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 131,000 คน ซึ่งมากที่สุดยิ่งกว่าชาติใดๆ ในโลก และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า อเมริกามีผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มากกว่า 60,000 คน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่

นอกจากนั้นหลายรัฐ เช่น มิสซูรี โอกลาโฮมา และมอนแทนา ต่างรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ ขณะที่โรงพยาบาลบางแห่งในรัฐฟลอริดาเผยว่า แผนกผู้ป่วยวิกฤตขณะนี้มีคนไข้เต็มแล้ว

นายแพทย์ แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชั้นนำ เตือนว่า สถานการณ์การระบาดในอเมริกายังอยู่ในระลอกแรกและรุนแรงมาก

ทว่า วันอังคาร ทรัมป์ประกาศว่า ไม่เห็นด้วยกับฟาวซีโดยยืนยันว่า อเมริกาปลอดภัยดี

ขณะเดียวกัน WHO ระบุในการแถลงข่าวว่า จะปรึกษาหารือกับพวกผู้เชี่ยวชาญของตน เกี่ยวกับข้อเสนอแนะของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกกว่า 200 คนที่เชื่อว่า ไวรัสโคโรนาสามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ไกลและนานกว่าที่เคยเชื่อกัน

ตำรวจและบุคลากรทางการแพทย์ตั้งแถวกันอยู่ด้านนอกของอาคารเคหะสงเคราะห์แห่งหนึ่งที่ถูกล็อกดาวน์ เนื่องจากเป็นจุดที่ไวรัสโคโรนาแพร่ระบาด ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย วันพุธ (8 ก.ค.) โดยที่ทั่วทั้งเมืองใหญ่อันดับ 2 ของแดนจิงโจ้แห่งนี้จะถูกบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งหนึ่งเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่คืนวันพุธ (8)
สำหรับที่เมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย ประชาชนแห่ซื้อของตุนเตรียมพร้อมรับมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ที่มีกำหนดเริ่มต้นคืนวันพุธ กินระยะเวลา 6 สัปดาห์ และครอบคลุมประชาชนราว 5 ล้านคน ขณะที่รัฐวิกตอเรียได้ปิดพรมแดนติดต่อกับรัฐอื่นๆ ตั้งแต่คืนวันอังคาร

เชน ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่สุดในออสเตรเลียต้องฟื้นมาตรการจำกัดการซื้อสินค้าบางอย่าง เช่น พาสตา ผัก และน้ำตาล หลังลูกค้าแห่เข้าร้านในย่านที่มีการล็อกดาวน์

นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวเมื่อวันพุธว่า จะเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและผู้นำดินแดนที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ (10) ให้ชะลอการนำพลเมืองออสเตรเลียและผู้พำนักถาวรกลับประเทศ ขณะที่ออสเตรเลียกำลังพยายามควบคุมการระบาดรอบสองในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเมื่อวันพุธพบเคสใหม่ 134 คน ลดลงจากวันก่อนหน้าที่สูงถึง 191 คน แต่ยังสูงกว่าอีก 7 รัฐ และดินแดนที่มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในอัตราเลขหลักเดียว

นอกจากนั้น เมื่อวันอังคาร นิวซีแลนด์ เพื่อนบ้านของออสเตรเลีย ประกาศว่า สายการบินแห่งชาติจะไม่รับจองตั๋วเดินทางเข้าประเทศนาน 3 สัปดาห์ เพื่อลดภาระศูนย์กักกันโรคที่ขณะนี้มีผู้เข้ารับการกักตัวล้นแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น