เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น - องค์การอนามัยโลก (WHO) ในวันอังคาร (7 ก.ค.) ระบุจะศึกษาหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการแพร่กระจายทางอากาศของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติสรุปว่ามันอาจแพร่เชื้อได้ไกลเกิน 2 เมตร ขณะเดียวกันก็จะส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปยังจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อสืบหาต้นกำเนิดของโรคระบาดใหญ่
องค์อนามัยโลกเผยว่า จะเผยแพร่ข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ใหม่ในอีกไม่วันข้างหน้า ซึ่งจะรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการแพร่กระจายเชื้อของไวรัส และเพื่อรับประกันว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกจะเป็นไปตามกรอบหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏ
คำแนะนำเว้นระยะห่างทางสังคม 2 เมตร คือปัจจัยหลักในการต่อสู้กับโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 538,000 คนทั่วโลก และติดเชื้อแล้วกว่า 11.6 ล้านคน นับตั้งแต่มันอุบัติขึ้นในจีนเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ 239 คน ในวันจันทร์ (6 ก.ค.) เรียกร้ององค์การอนามัยโลก และหน่วยงานอื่นๆ ให้ยอมรับข้อเท็จจริงที่ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สามารถแพร่กระจายทางอากาศในระยะไกลเกินกว่า 2 เมตร และขอให้ปรับแก้กรอบคำแนะนำด้านมาตรการป้องกันโรคระบาดร้ายแรงนี้
เวลาที่ผู้ติดเชื้อไอหรือจาม พวกเขาจะพ่นละอองฝอยขนาดต่างๆ นานาออกมา โดยละอองฝอยที่มีขนาดมากกว่า 5-10 ไมโครมิเตอร์ จะร่วงสู่ฟื้นอย่างรวดเร็วภายในรัศมี 1-2 เมตร แต่ละอองฝอยที่มีขนาดเล็กกว่านั้น สามารถค้างอยู่กลางอากาศได้นานและลอยไปไกลกว่านั้นมาก ข้อเรียกร้องของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติระบุ
เบเนเดตตา อัลเลแกรนซี หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคติดต่อขององค์การอนามัยโลก กล่าวระหว่างแถลงข่าวทางไกล “เรายอมรับว่ามีหลักฐานกำลังปรากฏในขอบเขตนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงเชื่อว่าเราจำเป็นต้องเปิดรับหลักฐานนี้ และตระหนักถึงผลกระทบในเรื่องวิธีการแพร่เชื้อ และในเรื่องเกี่ยวกับมาตรการป้องกันไว้ก่อนต่างๆ ที่พึงจำเป็นต้องใช้”
มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอุบัติใหม่แห่งองค์การอนามัยโลก บอกว่า หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติ กำลังคลอดข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมรวมองค์ความรู้ที่มีมากขึ้นเกี่ยวกับการแพร่กระจายเชื้อของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ว่าอะไรเหมาะกับกรอบคำแนะนำที่เรามี” เธอกล่าว “เราจะเผยแพร่ข้อสรุปของเราในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และจะสรุปความทุกอย่างที่เรามีในขอบเขตนี้”
ขณะเดียวกัน เทดรอส แอดฮานอม เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ชี้ว่า โรคระบาดใหญ่ไม่มีสัญญาณแห่งการชะลอตัวแม้แต่น้อย ในขณะที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกมากกว่า 400,000 คน
ในช่วงต้นของการแพร่ระบาด ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใช้เวลาถึง 12 สัปดาห์ กว่าจะแพร่เชื้อสู่ประชากรโลก 400,000 คนแรก “โรคระบาดใหญ่กำลังแพร่ระบาดเร็วขึ้น ชัดเจนว่าเรายังไม่ถึงจุดสูงสุดของโรคระบาดใหญ่ ในขณะที่ดูเหมือนว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะทรงตัวทั่วโลก มีบางประเทศมีความคืบหน้าอย่างมากในการลดจำนวนผู้เสียชีวิต แต่ก็มีอีกหลายประเทศ ที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น” เขากล่าว “ไวรัสจับโลกเป็นตัวประกัน”
นอกจากนี้แล้ว เกรเบเยซุส ยังเปิดเผยด้วยว่าคณะนักวิทยาสตร์และผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก มีกำหนดเดินทางไปจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อสืบหาต้นตอของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
“ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มีการพูดคุนกันเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 ทุกการเตรียมการได้ข้อสรุปและผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกจะเดินทางไปยังสุดสัปดาห์นี้ เพื่อตระเตรียมแผนการต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของจีน เพื่อระบุแหล่งกำเนิดในสัตว์ของไวรัส” เทดรอสกล่าว
พวกผู้เชี่ยวชาญจะเสาะหาร่องรอยความเป็นไปได้ที่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่อาจแพร่จากสัตว์ป่าหรือกระทั่งปศุสัตว์ มาสู่มนุษย์ จากการเปิดเผยของนายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก “มันต้องใช้เวลา มีอาณาจักรสัตว์ป่า มีอาณาจักรปศุสัตว์ มีการเชื่อมโยงกับมนุษย์ ดังนั้น เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับเส้นทางของไวรัส”
