เอเจนซีส์ - ออสเตรเลียขยายคำสั่งล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์น ครอบคลุมประชาชน 5 ล้านคน ขณะที่หมอใหญ่อเมริกาเตือนสถานการณ์การระบาดเลวร้ายมาก และจำเป็นต้องจัดการทันที ส่วนอินเดียยังรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งกระฉูด และผู้นำบราซิลเข้ารับการตรวจหาเชื้อหลังมีไข้และยกเลิกภารกิจตลอดวันอังคาร (7 ก.ค.)
ข้อมูลที่สำนักข่าวเอเอฟพีรวบรวมถึงตอนเย็นวันอังคาร (เวลาเมืองไทย) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งทะลุ 11.6 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 538,000 คน ขณะที่สัญญาณต่างๆ บ่งชี้ว่า วิกฤตคราวนี้จะยังคงยืดเยื้ออีกนาน
หนึ่งในสัญญาณเช่นนี้ปรากฏขึ้นในออสเตรเลีย ซึ่งก่อนหน้านี้ สามารถควบคุมการระบาดได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่ล่าสุด กลับต้องประกาศล็อกดาวน์อีกครั้งครอบคลุมประชาชน 5 ล้านคนในเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย ที่มีฐานะเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ
แดเนียล แอนดรูส์ นายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรีย ยอมรับว่า ไม่สามารถเสแสร้งว่า วิกฤตไวรัสโคโรนาสิ้นสุดลงแล้ว หลังจากในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 191 คนในเมลเบิร์น
การล็อกดาวน์เขตเมืองของเมลเบิร์นรอบใหม่ กำหนดเริ่มต้นเที่ยงคืนวันพุธ (8) และกินเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการขยายผลคำสั่งล็อกดาวน์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ครอบคลุมประชาชนเพียง 300,000 คน ขณะที่รัฐวิกตอเรียเริ่มปิดพรมแดนติดต่อกับรัฐอื่นๆ ตั้งแต่คืนวันอังคาร
ส่วนที่อเมริกา แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชั้นนำ และสมาชิกทีมที่ปรึกษาวิกฤตโรคระบาดของทำเนียบขาวซึ่งดูจะเป็นผู้ที่ได้รับความเชื่อถือสูงที่สุด ระบุว่า อเมริกายังคงเผชิญกับการระบาดระลอกแรกด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อมากมายมหาศาล พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อเมริกายังไม่เคยกดอัตราการติดเชื้อลงสู่ระดับที่บริหารจัดการได้เหมือนประเทศยุโรป ซ้ำการระบาดกลับหนักขึ้นจึงถือเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่ต้องจัดการในทันที
ข้อมูลที่รวบรวมจนถึงวันจันทร์ (6) ระบุว่า อเมริกามีผู้เสียชีวิตเกิน 130,000 คนแล้ว และผู้ติดเชื้อใกล้ถึงหลัก 3 ล้านคน เฉพาะวันจันทร์พบเคสใหม่ 54,999 คน
เจ้าหน้าที่หลายคนเตือนว่า โรงพยาบาลในบางพื้นที่เสี่ยงที่จะไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้ และนายกเทศมนตรีบางคนยอมรับว่า ปลดล็อกมาตรการคุมเข้มเร็วเกินไป
และแม้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามยืนยันว่า สถานการณ์การระบาดในอเมริกาไม่ได้เลวร้ายมาก แต่เมื่อวันจันทร์หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองกลับส่งสัญญาณตรงกันข้ามด้วยการประกาศว่า จะไม่อนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติอยู่ในอเมริกาต่อ ถ้าทุกวิชาที่ลงเรียนเปิดสอนออนไลน์
เวลานี้หลายประเทศทั่วโลก กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนา ไล่ตั้งแต่อิหร่าน แอฟริกาใต้ อินเดีย ไปจนถึงบราซิล โดยประเทศหลังสุดนั้นมีข่าวว่า ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้ต่อต้านการสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่างทางสังคม และมาตรการล็อกดาวน์ ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังมีอาการป่วย เช่น เป็นไข้
แม้โบลโซนารูยืนยันว่า ผลการตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ ในปอด แต่รายงานระบุว่า ผู้นำบราซิลงดภารกิจตลอดวันอังคาร
ทั้งนี้ บราซิลเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดรุนแรงที่สุดอันดับ 2 ของโลก ด้วยยอดผู้เสียชีวิตกว่า 65,000 คน และติดเชื้อ 1.6 ล้านคน
สำหรับอินเดีย ในวันอังคาร (7) มุมไบ (บอมเบย์) เมืองหลวงทางการเงินของอินเดีย เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ 4 แห่ง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศราว 720,000 คน สูงสุดอันดับ 3 ของโลก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเกิน 20,000 คน