เอเจนซีส์ - หลานสาวผู้นำสหรัฐฯ แมร์รี แอล. ทรัมป์ (Mary L. Trump) แฉสุดช็อกให้โลกรู้ผ่านหนังสือพ็อกเกตบุ๊กชื่อ “มากเกินไปและไม่เคยพอ : ครอบครัวของข้าพเจ้าสร้างบุคคลที่อันตรายมากที่สุดในโลกได้อย่างไร” (Too Much and Never Enough : How My Family Created The World ‘S Most Dangerous Man) ที่มีกำหนดจะวางแผนในสัปดาห์หน้า ชี้ ทรัมป์มีพฤติกรรมที่ประหลาด ทั้งเห็นแก่ตัว ไม่มีความกรุณา โกหก กดขี่ รวมไปถึงเหยียดหยามทางเพศจากผลกระทบสมัยเด็กที่มาจากบิดา ซึ่งมีปัญหาทางจิตเป็นพวกต่อต้านสังคมแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน (high-functioning sociopath) และทำให้โลกต้องตกอยู่ในความคุกคามด้านสังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคง ในเวลานี้
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) ว่า พฤติกรรมที่สุดกู่และน่าตกตะลึงของผู้นำสหรัฐฯได้รับการบอกเล่าออกมาจากปากของผู้ที่เป็นหลานสาว แมรี แอล. ทรัมป์ ผ่านหนังสือที่จะเปิดตัวในวันอังคารหน้า(14) ชื่อ “มากเกินไปและไม่เคยพอ : ครอบครัวของข้าพเจ้าสร้างบุคคลที่อันตรายมากที่สุดในโลกได้อย่างไร” (Too Much and Never Enough : How My Family Created The World ‘S Most Dangerous Man)
ซึ่งเธอกล่าวว่า ได้ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากป้า แมรี แอนน์ ทรัมป์ แบร์รี (Mary anne Trump Barry) พี่สาวคนโตสุดของผู้นำสหรัฐฯ ที่เป็นอดีตผู้พิพากษาศาลแขวงอุทธรณ์สหรัฐฯ จากการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน และเพิ่งเกษียณอายุลงในปี 2019
และพบว่า แมรี ทรัมป์ เป็นแหล่งข่าวหลักของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ในรายงานปัญหาภาษีของครอบครัวทรัมป์ ซึ่งในเวลานี้ศาลสูงสุดสหรัฐฯกำลังอยู่ในการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้บันทึกภาษีของทรัมป์ และเอกสารทางการเงินสามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้หรือไม่
ในหนังสือหลานสาวทรัมป์กล่าวว่า เชื่อว่า การที่ผู้นำสหรัฐฯมีนิสัยที่ผิดประหลาดจากผู้คนโดยปกติและไม่เคยรู้สึกเพียงพอน่าจะมาจากปัญหาที่เขาขาดการติดต่อกับมารดาในช่วงเวลาสำคัญของการพัฒนาในวัยเด็ก
“..จากการที่ถูกทอดทิ้งโดยมารดานานไม่ต่ำกว่า 1 ปี และจากที่พ่อของเขาที่ล้มเหลวที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขา (ทรัมป์) ได้ แต่ทำให้เขาปลอดภัย หรือมีความรัก และรู้สึกมีค่าและเลียนแบบ โดนัลด์ประสบจากการถูกพรากสิ่งสำคัญที่เป็นเหมือนตราประทับไปตลอดชีวิต”
และเสริมต่อว่า “พฤติกรรมส่วนบุคคลที่เห็นได้จากการเป็นบุคคลที่หลงตัวเองอย่างหนัก บูลลี (bully) หรืออันธพาล และการโอ้อวด ในที่สุดทำให้คุณปู่ของดิฉันเห็นในที่สุดแต่ไม่ได้ทำให้เขาแก้ไขในความเลวร้ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้า”
ทั้งนี้ พบว่า แม่ของผู้นำสหรัฐฯ แมรี แอนน์ ทรัมป์ (Mary Anne Trump ) ที่มีชื่อเดียวกับหลานสาวพบว่า มีปัญหาทางจิตเช่นกันเป็นผลมาจากการผ่าตัดมดลูกฉุกเฉิน (emergency hysterectomy ) และทำให้ทรัมป์และพี่น้องของเขาทั้งหมดต้องพึ่งผู้เป็นพ่อเป็นส่วนใหญ่ เฟรด ทรัมป์ (Fred Trump) นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์กที่เสียชีวิตลงในปี 1999 ซึ่งทรัมป์นั้นเติบโตมากับความร่ำรวยและเขาและส่งผลถึงรุ่นถัดไปยังคงต้องการความร่ำรวยและชื่อเสียง
แมรี ทรัมป์ กล่าวถึงบิดาของผู้นำสหรัฐฯว่า เป็นพวกปัญหาทางจิตเป็นพวกต่อต้านสังคมแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน หรือ “high-functioning sociopath” พร้อมกับกล่าวลงในรายละเอียดถึงความเป็นอันธพาล ต่อต้านยิว กีดกันสีผิว กีดกันทางเพศ และมีความเกลียดชังมนุษย์ ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่ามีในตัว
พ่อของเธอคือ เฟรด ทรัมป์ จูเนียร์ (Fred Trump Jr.) ซึ่งเป็นบุตรคนที่ 2 ของเฟรด ทรัมป์ และเป็นพี่ชายคนโตสุดของผู้นำสหรัฐฯ เสียชีวิตลงเมื่ออยู่ในวัยแค่ 40 กว่าปี เป็นผลมาจากโรคพิษสุราเรื้อรัง เธอกล่าวว่า ลักษณะนิสัยของผู้นำสหรัฐฯได้รับการเพาะบ่มการเฝ้ามองสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากพ่อของเธอ
“โดนัลด์ไม่เคยขาดเงินและจ่ายให้เพื่อนเขาด้วยตัวเลขที่สูง” แมรี ทรัมป์ กล่าวและเล่าถึงการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้จ้างให้เพื่อน โจ ชาปิโร (Joe Shapiro) นั่งสอบ SAT แทนเพื่อที่เขาจะได้เข้าเรียนต่อในคณะบริหารธุรกิจชื่อดัง โรงเรียนธุรกิจวาร์ตัน (Wharton Business School) ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และขอให้พี่ชายช่วยแนะนำตัวเขาต่อทางคณะ
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯยังมีพี่น้องที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในเวลานี้มีทั้งหมดรวม 4 คน ขณะที่ แมรี ทรัมป์ หลานมีดีกรีปริญญาเอกด้านคลินิกจิตวิทยา เธอเล่าถึงการมีปัญหาเหยียดหยามสตรี โดยกล่าวว่า ทรัมป์คาดหวังในการเดตกับเหล่าผู้หญิงที่มีชื่อเสียง ซึ่งมี “มาดอนนา” และนักไอซ์สเกตชื่อดัง “คาทารินา วิตต์” (Katarina Witt) รวมอยู่ โดยกล่าวว่า “เขาคาดหวังที่จะออกเดตแต่กับใครก็ตามที่ปฎิเสธเขา จะกลายเป็นสิ่งเลวร้าย น่าเกลียดที่สุด และอ้วนฉุเท่าที่เขาเคยพบ”
เธอกล่าวว่า เธอได้เดินทางไปที่มาราลาโกที่พักส่วนตัวประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อขอสัมภาษณ์ แต่บังเอิญที่ทรัมป์พบเธอระหว่างอยู่ในชุดว่ายน้ำ ผู้นำสหรัฐฯทักแมรี ทรัมป์ว่า “นรกเลยนะนี่ แมรี เห็นเป็นชั้นๆ เลย”
ในรายงานตอนท้ายของเดอะการ์เดียน หลานสาวผู้นำสหรัฐฯเขียนว่า ในวันชนะการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์
“ดิฉันเดินไปทั่วบ้านในความรู้สึกตระหนกเหมือนเช่นคนอื่น แต่จะรู้สึกในทางส่วนตัวมากกว่า รู้สึกราวกับว่าผู้ออกเสียง 62,979,636 คน เลือกที่จะเปลี่ยนให้ประเทศนี้เป็นเสมือนครอบครัวที่ไม่สมประกอบของดิฉันในระดับมหภาค”
