(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.asiatimes.com)
India, China pull back from brink of conflict
by Sumit Sharma
06/07/2020
อินเดียกับจีน สองชาติเพื่อนบ้านที่กำลังเป็นคู่แค้นกัน เพิ่งเจรจาหารือในระดับสูงและตกลงเห็นพ้องกันว่าจะเคารพแนวเส้นพรมแดนชั่วคราวระหว่างประเทศทั้งสองซึ่งเรียกว่า Line of Actual Control ที่ใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว
อินเดียกับจีนพากันถอยหลังออกจากปากขอบเหวแห่งการสู้รบขัดแย้ง โดยทำความตกลงกันว่าจะเคารพเส้นพรมแดนชั่วคราวซึ่งใช้กันมาหลายสิบปีที่เรียกชื่อว่า “แนวเส้นควบคุมในทางเป็นจริง” (Line of Actual Control หรือ LAC) (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Line_of_Actual_Control) และปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะขึ้นมาอีก
ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันว่าจะไม่ปล่อยให้ความแตกต่างทั้งหลายที่มีอยู่กลายเป็นข้อพิพาทขึ้นมา ฝ่ายอินเดียแถลงภายหลังการเจรจาเมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ระหว่าง อาจิต โดวัล (Ajit Doval) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของแดนภารตะ กับ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของแดนมังกร
“ทั้งสองฝ่ายยืนยันอีกครั้งว่า ประเทศทั้งสองควรเคารพและยึดถือ (แนวเส้น LAC) อย่างเคร่งครัด รวมทั้งไม่ควรที่จะใช้ปฏิบัติการแต่ฝ่ายเดียวใดๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะเดิม ตลอดจนจะปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นมาในอนาคตซึ่งอาจเป็นการรบกวนสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ชายแดน” คำแถลงของฝ่ายอินเดียระบุ
อินเดียเกิดการปะทะกันประปรายกับจีนอยู่หลายครั้งในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาตามแนวพรมแดนของเขตดาลัก (Ladakh) ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ตอนเหนือที่สุดของอินเดีย โดยที่นิวเดลีกล่าวหาปักกิ่งว่ากำลังล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของอินเหลือหลายกิโลเมตร
“ทั้งสองฝ่ายยังควรที่จะรับประกันให้มีการผ่อนคลายถอยห่างอย่างเป็นขั้นเป็นตอนจากความบานปลายขยายตัวในพื้นที่ชายแดนระหว่างอินเดียกับจีน” ฝ่ายอินเดียระบุ “ในแง่มุมนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องกันต่อไปอีกว่า ประเทศทั้งสองควรที่จะดำเนินกระบวนการออกห่างจากการปะทะสู้รบกันตามแนวเส้น LAC ให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว”
การมีปฏิสัมพันธ์กันแบบเสมือนจริงระหว่าง โดวัล กับ หวัง เมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) บังเกิดขึ้นตามหลังจากที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมด ของอินเดีย เดินทางไปเยือนเขตดาลักแบบเซอร์ไพรซ์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม
ในการเยือนครั้งนั้น โมดีได้พบหารือกับพวกนายทหารระดับท็อปของกองทัพอินเดีย เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้วยตนเอง รวมทั้งเขายังกล่าวหาจีนว่ากำลังทำตัวเป็นนักลัทธิขยายดินแดน (expansionism) อันเป็นสิ่งที่ปักกิ่งปฏิเสธอย่างแข็งขัน
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา การปะทะกันระหว่างกองทหารของประเทศทั้งสองได้บานปลายกลายเป็นเรื่องรุนแรง โดยที่มีทหารอินเดียถูกฆ่าตายไป 20 คน กรณีสังหารนี้ทำให้ฝ่ายอินเดียโกรธเกรี้ยว และรีบเร่งเคลื่อนย้ายทั้งกำลังทหารและอาวุธเข้าไปใกล้พรมแดนมากยิ่งขึ้น
ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงนิวเดลี แถลงภายหลังการเจรจาระหว่างโดวัลกับหวัง โดยระบุว่า “ความถูกผิดของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่หุบเขากัลวาน (Galwan Valley) ในส่วนตะวันตกของพรมแดนระหว่างจีนกับอินเดียนั้นมีความชัดเจนมาก จีนจะยังคงปกป้องอธิปไตยแห่งดินแดนของเราอย่างมั่นคงต่อไป เช่นเดียวกับการปกป้องสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนเหล่านี้”
จีนแถลงอีกว่า โดวัล กับ หวัง เห็นพ้องกันที่จะรักษาการติดต่อสื่อสารกันเอาไว้เพื่อรับประกันว่าจะมีการฟื้นฟูสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนระหว่างอินเดียกับจีนอย่างเต็มที่และอย่างยั่งยืน โดยพวกเจ้าหน้าที่ทางการทูตและทางการทหารของทั้งสองประเทศจะดำเนินการเจรจาหารือกันต่อไปอีก
หมายเหตุผู้แปล
หลังจากการเจรจาระหว่าง อาจิต โดวัล กับ หวัง อี้ ในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) แล้ว สำนักข่าวหลายแห่งรายงานเมื่อวันจันทร์ (6 ก.ค.) ว่า ฝ่ายอินเดียพบเห็นฝ่ายจีนถอนทหารและยุทโธปกรณ์ออกจากบริเวณชายแดนใกล้พื้นที่ปะทะกันที่ทำให้ทหารอินเดียตายไป 20 คน จึงขอเก็บความจากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์มาเสนอดังต่อไปนี้:
จีนเริ่มถอนทหารออกจากจุดใกล้ชายแดนอินเดียซึ่งเกิดการปะทะกัน
โดย สำนักข่าวรอยเตอร์
China begins pulling back troops near site of India border clash, Indian sources say
By Sanjeev Miglani and Huizhong Wu, Reuters
จีนได้เริ่มถอนทหารออกมาจากพื้นที่ชายแดนซึ่งพิพาทโต้แย้งกับอินเดียแล้วเมื่อวันจันทร์ (6 ก.ค.) แหล่งข่าวหลายรายในรัฐบาลแดนภารตะเปิดเผย ทั้งนี้ภายหลังเหตุการณ์ปะทะสู้รบกันระหว่างสองประเทศเดือนที่แล้วซึ่งทหารอินเดียถูกสังหารไป 20 คน
ทั้งนี้ในคืนวันที่ 15 มิถุนายน ทหารของทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอยู่นานหลายชั่วโมงในบริเวณหุบเขากัลวาน (Gulwan Valley) โดยใช้ท่อนโลหะและไม้กระบองเป็นอาวุธ มีบางคนเสียชีวิตจากการตกลงไปในแม่น้ำกัลวานอันหนาวยะเยือก ทางซีกตะวันตกของเทือกเขาหิมาลัย
จีนยังไม่เคยยืนยันเลยว่าฝ่ายตนมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตอย่างไรหรือไม่ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของฝ่ายอินเดียถือว่าสูงสุดในบรรดาเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนนี้ในช่วงเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมา นับเป็นการบานปลายขยายตัวของสถานการณ์อย่างน่าตื่นใจ ซึ่งนำไปสู่การเจรจากันในหลายๆ สัปดาห์ถัดมาระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารระดับอาวุโส ในเรื่องวิธีการผ่อนคลายความตึงเครียด
เมื่อวันจันทร์ (6 ก.ค.) ฝ่ายอินเดียเห็นทหารจีนรื้อเต็นท์และโครงสร้างต่างๆ ณ พื้นที่ภายในหุบเขากัลวาน ใกล้ๆ จุดที่เกิดการปะทะกันคราวล่าสุด แหล่งข่าวหลายรายในรัฐบาลอินเดียเผย โดยขอไม่ให้ระบุนามเนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับมอบอำนาจให้พูดจากับสื่อ
แหล่งข่าวเหล่านี้กล่าวต่อไปว่า ฝ่ายอินเดียมองเห็นยานพาหนะของฝ่ายจีนกำลังถอนออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน รวมทั้งจากพื้นที่ฮอตสปริงส์ (Hotsprings) และ โกกรา (Gogra) อันเป็นอีก 2 เขตชายแดนซึ่งมีการพิพาทโต้แย้งกัน
อาจิต โดวัล ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของอินเดีย กับ หวัง อี้ หนึ่งในนักการทูตระดับท็อปของจีน ได้ “แลกเปลี่ยนทัศนะกันอย่างตรงไปตรงมาและลงลึก” เมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ในเรื่องเกี่ยวกับชายแดนนี้ ทั้งนี้ตามข้อความสรุปของทั้งสองประเทศซึ่งมีการเผยแพร่ออกมาในวันจันทร์ (6 ก.ค.)
ทั้งสองฝ่ายกล่าวว่า พวกเขาตกลงเห็นพ้องกันที่จะแยกทหารออกห่างจากกัน ข้อความสรุปของฝ่ายอินเดียยังระบุด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะเคารพเส้นแนวพรมแดนชั่วคราวที่มีอยู่ ซึ่งเรียกชื่อว่า “แนวเส้นควบคุมในทางเป็นจริง” (Line of Actual Control หรือ LAC) ทว่าในข้อความสรุปเกี่ยวกับการเจรจาหารือคราวนี้ของฝ่ายปักกิ่งนั้น ไม่ได้มีการอ้างอิงถึงเรื่องนี้
ระหว่างตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า จีนได้เคลื่อนย้ายถอยอาวุธยุทโธปกรณ์ในหุบเขากัลวานหรือไม่ เจ้า ลี่เจียน (Zhao Lijian) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า ทั้งสองฝ่าย “กำลังดำเนินมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อแยกห่างจากกัน และผ่อนคลายสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน”
“เราหวังว่าอินเดียจะพบกันครึ่งทางกับจีน และใช้มาตรการที่หนักแน่นมั่งคงในการกระทำตามสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายตกลงเห็นพ้องกันเอาไว้, ดำเนินการติดต่อสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องโดยผ่านช่องทางด้านการทูตและทางการทหาร และปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อทำให้สถานการณ์ตรงชายแดนผ่อนคลายลงมา” เจ้ากล่าวในการแถลงข่าวตามปกติของกระทรวงเมื่อวันจันทร์ (6 ก.ค.)