เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – เมื่อวานนี้(17 มิ.ย) นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ประกาศผ่านโทรทัศน์จะปกป้องอธิปไตยประเทศ เกิดขึ้นหลังสื่อแดนภารตะเรียกร้องให้มีการตอบโต้ที่แรงขึ้นต่อการปะทะกับกองกำลังจีนที่หุบเขากาลวาน เขตพิพาทหิมาลัย ที่ทำให้มีทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย ขณะเดียวกันวันนี้(18 มิ.ย) สภาสูงเนปาลอนุมัติแผนที่เนปาลใหม่ที่ครอบคลุมไปถึงดินแดนที่อยู่ภายใต้การครอบครองของอินเดียในเวลานี้
บลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจ รายงานเมื่อวานนี้(17 มิ.ย)ว่า นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้ออกมาแถลงเป็นครั้งแรกในวันพุธ(17)หลังเกิดเหตุปะทะที่ไม่มีการใช้ปืนระหว่างกองกำลังอินเดียและกองกำลังจีนบริเวณหุบเขากาลวาน ( Galwan Valley) ในเขตพื้นที่ขัดแย้ง อัคไซ ชิน-ลาดัคฮ์( Aksai Chin-Ladakh) บริเวณพรมแดนหิมาลัยเมื่อวันจันทร์(15) ส่งผลทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย และไม่ทราบจำนวนการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บของทหารฝั่งจีน
“อินเดียต้องการสันติภาพ” โมดีประกาศ และเสริมต่อว่า “เมื่ออินเดียถูกยั่วยุ อินเดียมีความสามารถที่จะตอบอย่างน้ำหนักเท่าเทียมภายใต้สถานการณ์ใดๆ และจากการพลีชีพของคนของเรา ทหารกล้าเหล่านั้น ทั้งชาติมีความภาคภูมิที่พวกเขาเสียชีวิตในขณะกำลังสู้รบ”
ทั้งนี้ในวันพุธ(17) บรรดาสื่อของอินเดียต่างออกมาแสดงความเห็นต้องการให้นิวเดลีทำการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อประเด็นการปะทะที่เกิดขึ้น
หนังสือพิมพ์ไทม์สออฟอินเดีย สื่อภาคภาษาอังกฤษได้แสดงความเห็นผ่านบทบรรณาธิการฉบับวันพุธ(17) กล่าวว่า “ช่วงเวลาของการแสดงความก้าวร้าวของจีนและการออกมาอ้างของปักกิ่งในความเป็นเจ้าของหุบเขากาลวาน (Galwan valley) ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่เตือนให้อินเดียเห็นถึงจุดอ่อนของตัวเอง”
และกล่าวต่อว่า “ซึ่งหากเป็นประเด็นนี้แล้ว อินเดียในฐานะชาติที่น่าภาคภูมิสมควรที่ต้องทำในสิ่งที่จีนไม่ต้องการรวมทั้งใช้มาตรการตอบโต้ทางการทูตต่อจีน”
สื่อธุรกิจรายงานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายต่างชี้หน้ากันอ้างว่าอีกฝ่านยั่วยุก่อน แต่ทั้งอินเดียและจีนต่างยืนยันเหมือนกันว่ากำลังมีการหารือเกิดขึ้นระหว่างผู้บัญชาการกองทัพระดับสูงของทั้ง 2 ชาติในเวลานี้เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์บริเวณเขตพิพาทหิมาลัย
ซึ่งดูเหมือนสถานการณ์จะเริ่มลดคความตรึงเครียดลงในระดับทางการทูต โดยทั้งอินเดียและจีนตกลงที่จะลดความตรึงเครียดบริเวณพรมแดนลงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกิดขึ้นหลังรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศ สุพราห์มาเนียม เจย์ชานการ์ (Subrahmanyam Jaishankar)ทางโทรศัพท์
โดยหวังได้เรียกร้องให้อินเดียไม่ให้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาดและประมาทต่อความมุ่งมั่นของปักกิ่งต่อการปกป้องอธิปไตยของตัวเอง
และหวัง อี้ ยังได้กล่าวซ้ำถึงข้อกล่าวหาที่อ้างว่าฝ่ายอินเดียเป็นผู้ข้ามเส้นกั้นพรมแดน LAC เข้าไปภายในดินแดนจีนและเริ่มต้นโจมตีกองกำลังจีนเมื่อวันที่ 15 มิ.ย
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันในการแก้ปัญหาการเผชิญหน้ารุนแรงที่หุบเขากาลวานในอย่างยุติธรรม
อ้างอิงจาก CBC News สื่อแคนาดา เจย์ชานการ์กล่าวหาฝั่งจีนว่า ได้ทำการสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นในหุบเขากาลวาน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียชี้ว่า เป็นการดำเนินการที่มีการวางแผนที่ไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีและถือเป็นความรับผิดชอบโดยตรงต่อความรุนแรงและการสูญเสียที่ตามมา
เขายังชี้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียและจีน
ทั้งนี้พบว่ามีกลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวใกล้กับสถานทูตจีนในกรุงนิวเดลี ประณามการสังหารทหารอินเดียและเรียกร้องให้มีการแบนสินค้าจีน โดยกลุ่มผู้ประท้วงแบกป้ายที่มีภาพของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่มีการกากบาท และกองทัพจีน
และมีกลุ่มทหารอินเดียที่เกษียณอายุทำการเดินมาร์ชใกล้กับสถานทูตพร้อมป้ายประท้วงที่อ่านได้ว่า “กองทัพจีนล่มจม” แต่คนเหล่านี้ถูกตำรวจทำการควบคุม
รอยเตอร์รายงานว่า สภาสูงเนปาลที่มีสมาชิกทั้งหมด 59 คนในวันพฤหัสบดี(18)ได้ลงมติด้วยเสียง 57 – 0 เห็นชอบร่างแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญเนปาลที่ต้องการปรับปรุงแผนที่ประเทศใหม่ ประธาน พิฆเนศ ปราสาด ติมิลสีนา (Ganesh Prasad Timilsina ) กล่าว
ทั้งนี้พบว่าในช่วงสุดสัปดาห์ร่างกฎหมายได้ผ่านสภาล่างเนปาลมาแล้ว
“เรามีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอ และเราจะนั่งลง(ร่วมกับอินเดีย)ในการแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาทางการทูต” รัฐมนตรียุติธรรมเนปาล ศิวะ มายา ตุมบาฮัมฟี(Shiva Maya Tumbahamphe) แถลงต่อรัฐสภาเนปาล
อย่างไรก็ตามแผนที่ประเทศเนปาลฉบับใหม่ที่รวมพื้นที่ในการครอบครองของอินเดียในเวลานี้เข้าไปด้วยต้องได้รับการลงนามจากประธานาธิบดีเนปาล พิทยา เทวี ภัณทารี ( Bidhya Devi Bhandari)ในการอนุมัติ
เนปาลเร่งอนุมัติให้มีแผนที่ประเทศใหม่เริ่มมาตั้งแต่เดือนที่แล้วเกิดขึ้นหลังจากที่นิวเดลีได้เปิดการใช้ถนนความยาว 80 กิโลเมตรจากรัฐอุตตราขัณฑ์ (Uttarakhand๗ ไปยัง ลิปูเลคฮ์( Lipulekh) ตรงพรมแดนที่ติดกับภูมิภาคทิเบตของจีน และมีระยะทาง 19 กิโลเมตรของทางที่ผ่านดินแดนที่เนปาลอ้างว่าเป็นเจ้าของถือครอง
ทั้งนี้พบว่าบริเวณขัดแย้งระหว่างอินเดียและเนปาลมีพื้นที่ราว 372 ตารางกิโลเมตรมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ตั้งอยู่ที่จุดเชื่อม 3 ประเทศ (tri-junction) คือเนปาล อินเดีย และจีนในส่วนของทิเบต แต่ทว่าอินเดียได้ส่งกองกำลังไปประจำในพื้นที่ขัดแย้งนี้ตั้งแต่เกิดสงครามกับจีนเมื่อปี 1962
