“จีน” สั่งเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตฮ่องกง “ผู้ว่าลัม” ยัน “กม.ความมั่นคง” ฟื้นเสถียรภาพ

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - จีนเผยแพร่คำสั่งใหม่ที่อิงอำนาจตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งใช้กับฮ่องกง โดยครอบคลุมการเซ็นเซอร์ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และการเข้าถึงข้อมูลยูสเซอร์ ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ถูกต่อต้านจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอเมริกา กระทั่งจากแพลตฟอร์ม “ติ๊กต๊อก” ที่เป็นของจีนเอง ขณะที่ผู้นำฮ่องกงยืนยันในวันอังคาร (7 ก.ค.) ว่า ต้องบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้อย่างอย่างจริงจังเพื่อฟื้นเสถียรภาพของเกาะ

แผนการเซ็นเซอร์ข้อมูลออนไลน์ที่บรรจุอยู่ในเอกสารความยาว 116 หน้าซึ่งทางการจีนเผยแพร่เมื่อราวเที่ยงคืนวันจันทร์ (6) ยังระบุถึงการเพิ่มอำนาจตำรวจในการเข้าตรวจค้นและดักฟังติดตามโดยไม่ต้องมีหมายศาล เพื่อสอบสวนกรณีความมั่นคงของชาติ

จีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งใช้กับฮ่องกงฉบับนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าตั้งเป้าจัดการกับพฤติการณ์การล้มล้างรัฐบาล การแบ่งแยกดินแดน การก่อการร้าย และการสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ โดยกำหนดโทษสูงสุดเอาไว้ที่จำคุกตลอดชีวิต

ถึงแม้ทางการจีนและฮ่องกงออกมากล่าวย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่า มีคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายฉบับนี้ แต่จากรายละเอียดที่เปิดเผยคราวนี้ ทางประเทศตะวันตกและนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยกล่าวโจมตีว่า แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคนต่อสิทธิเสรีภาพของฮ่องกง นับจากที่อังกฤษส่งมอบเกาะแห่งนี้คืนให้จีนในปี 1997

ในคืนวันจันทร์ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวโจมตีแผนการของจีนในการเซ็นเซอร์นักเคลื่อนไหว สถาบันการศึกษา และห้องสมุดในฮ่องกง และทิ้งท้ายว่า เสรีภาพในการคิดและแสดงความคิดเห็นของฮ่องกงสิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง

จีนแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยว่า ต้องการใช้กฎหมายความมั่นคงปราบปรามกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยที่ปีที่แล้วชุมนุมประท้วงสร้างความปั่นป่วนทั่วฮ่องกงนานถึง 7 เดือน

แคร์รี ลัม ผู้นำสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์เมื่อวันอังคาร (7) ว่า รัฐบาลฮ่องกงจะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่อย่างกระตือรือร้น พร้อมเตือนกลุ่มหัวรุนแรงอย่าพยายามละเมิดกฎหมายนี้ เนื่องจากจะได้รับผลลัพธ์ร้ายแรงมาก


ลัมยืนยันว่า กฎหมายดังกล่าวไม่ได้หมายความถึงสถานการณ์ ซึ่งน่าสิ้นหวังตามตามที่มีผู้พยายามวาดภาพ เธอแสดงความเชื่อมั่นว่า เมื่อเวลาผ่านไปและความจริงได้รับการเปิดเผย ประชาชนจะเชื่อมั่นในหลักการหนึ่งประเทศ-สองระบบ และอนาคตของฮ่องกงมากขึ้น

ผู้นำสูงสุดของฮ่องกงสำทับว่า กฎหมายดังกล่าวไม่ถือว่า แข็งกร้าวเมื่อเทียบกับกฎหมายความมั่นคงของประเทศอื่นๆ แต่กลับจะช่วยฟื้นสถานะของฮ่องกงในการเป็นหนึ่งในดินแดนที่ปลอดภัยที่สุดของโลก ภายหลังการประท้วงที่เต็มไปด้วยความรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่ห้องสมุดและสถาบันการศึกษาต่างๆ รีบเร่งเก็บหนังสือเกี่ยวกับการส่งเสริมประชาธิปไตยออกจากชั้น คำแถลงซึ่งออกมาเมื่อคืนวันจันทร์ก็เป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลจีนคาดหวังผลในระบบออนไลน์ด้วย

คำสั่งใหม่อนุญาตให้ตำรวจสามารถควบคุมและลบข้อมูลออนไลน์ หากมีเหตุผลให้สงสัยได้ว่า ข้อมูลนั้นละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่บริษัทและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอาจถูกสั่งให้ลบข้อมูล และอาจถูกยึดอุปกรณ์ และหากไม่ให้ความร่วมมือ ผู้บริหารของบริษัทนั้นอาจถูกปรับหรือจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี

บริษัทต่างๆ ยังถูกคาดหวังให้มอบข้อมูลที่สามารถระบุตัวตน และความช่วยเหลือในการถอดรหัสแก่รัฐบาล

อย่างไรก็ตาม บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่างเฟซบุ๊ก กูเกิล และทวิตเตอร์ และ เทเลแกรม แอปป์แชตซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ประท้วงฮ่องกง ต่างต่อต้านคำสั่งนี้ และยืนยันว่า จะระงับการปฏิบัติตามคำขอของรัฐบาลหรือตำรวจฮ่องกงในการส่งมอบข้อมูลผู้ใช้

ด้าน ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมที่เป็นของไบต์ แดนซ์ของจีน ได้ประกาศยุติการดำเนินการในฮ่องกงเร็วๆ นี้

นับจากที่จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและชาวฮ่องกงจำนวนมากพากันลบข้อมูลโปรไฟล์ออนไลน์ที่อาจเป็นหลักฐานให้ทางการจีนเอาผิด

เอกสารที่เปิดเผยเมื่อคืนวันจันทร์ยังระบุว่า อำนาจของตุลาการฮ่องกงในการกำกับดูแลตำรวจก่อนหน้านี้จะถูกยกเว้น หากเป็นการสอบสวนกรณีความมั่นคงของชาติ และตำรวจสามารถตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายค้น รวมทั้งห้ามผู้ต้องสงสัยเดินทางออกจากเกาะ หากเห็นว่า เป็นภัยคุกคามเร่งด่วนต่อความมั่นคงของชาติ

นอกจากนั้น หนังสือพิมพ์อัยการรายวัน (โปรคิวเรโทเรียล เดลี่) ของทางการจีนยังรายงานว่า ปักกิ่งได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจพิเศษเพื่อเพิ่มความกวดขันในการตรวจตราดูแลทางการเมือง ทั้งนี้ ด้วยจุดประสงค์ในการรักษาเสถียรภาพทางสังคม