เอเจนซีส์ – รายงานวิจัยนักวิจัยเยอรมันชื่อดัง อาเดรียน เซนซ์(Adrian Zenz) เผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้(29 มิ.ย)ชี้ว่า รัฐบาลจีนบีบบังคับให้หญิงชนกลุ่มน้อยในประเทศโดยเฉพาะ "หญิงชนเผ่าอุยกูร์" จับทำหมันหรือต้องคุมกำเนิดแบบไม่สมัครใจในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ รวมไปถึงมีการจับเข้าแคมป์เพื่อล้างสมองให้ลืมความเป็นมุสลิมและวัฒนธรรมชนเผ่าที่แตกต่าง
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(29 มิ.ย)ว่าในรายงานการวิจัยของ อาเดรียน เซนซ์(Adrian Zenz) ที่เปิดเผยออกมาในวันจันทร์(29) โดยใช้ฐานข้อมูลทางการท้องถิ่นของจีน เอกสารด้านนโยบาย และรวมไปถึงการสัมภาษณ์หญิงชนกลุ่มน้อยในจีนได้ทำให้นักกฎมายขององค์กรระหว่างประเทศเรียกร้ององค์การสหประชาชาติทำการสอบสวนจีน
เดอะการ์เดียนชี้ว่า การออกมาเรียกร้องนี้น่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับปักกิ่งเป็นอย่างมากจากที่ตลอดเวลาปักกิ่งปฎิเสธว่าไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานต่อมุสลิมอุยกูร์ซึ่งถือเป็นชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ (Xinjiang)
ล่าสุดรัฐบาลปักกิ่งได้ออกปฎิเสธรายงานฉบับนี้ที่เผยแพร่ออกมาในวันจันทร์(29) โดยชี้ว่า "ไม่ตั้งอยู่ความเป็นจริง" และ "มีวาระซ่อนเร้น"
รายงานฉบับนี้ได้เปิดโปงนโยบายปักกิ่งที่กระทำต่อเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ระบุว่า ผู้หญิงอุยกูร์และผู้หญิงชนกลุ่มน้อยอื่นๆถูกข่มขู่ที่จะส่งตัวเข้าค่ายกักกันเพราะปฎิเสธที่จะทำแท้งเนื่องมาจากเกินโควต้ากำหนดสำหรับการมีบุตร
ฐานข้อมูลสิ่งที่เกิดขึ้นภายในค่ายกักกันซินเจียงของเซนซ์นักวิจัยชาวเยอรมันได้มาจากเอกสารทางการรัฐบาลจีนที่เผยแพร่บนอินเตอร์เนต และข้อมูลการวิจัยของนักวิจัยรายนี้ได้เคยถูกใช้อ้างอิงโดยผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติมาแล้วดังนั้นจึงมีความน่าเชื่อถือ
รายงานกล่าวว่า ในกลุ่มผู้หญิงชนกลุ่มน้อยที่มีบุตรต่ำกว่ากฎหมายจีนกำหนดไว้ที่ 2 คนต้องทำการคุมกำเนิดด้วยห่วงอนามัยโดยที่ไม่ต้องรับการยินยอมจากหญิงเหล่านั้น
และในรายงานยังกล่าวว่า มีผู้หญิงชนกลุ่มน้อยจำนวนหนึ่งกล่าวว่าพวกเธอถูกบังคับให้ต้องเข้ารับผ่าตัดทำหมัน
ขณะที่ชนกลุ่มน้อยที่เคยถูกส่งตัวเข้าค่ายกักกันได้เปิดเผยว่า คนเหล่านี้ถูกฉีดสารเข้าร่างกายเพื่อทำให้ไม่ต้องมีประจำเดือนหรือมีการทำให้เกิดการตกเลือดแบบไม่ปกติที่สอดคล้องไปกับผลจากการใช้ยาคุมกำเนิด
เอกสารรัฐบาลจีนที่เซนซ์ค้นพบระบุว่า ในรายกลุ่มสตรีชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลในภูมิภาคจะได้รับการตรวจสูตินารีบ่อยครั้งพร้อมกับการทดสอบการตั้งครรภ์ 2 ครั้งต่อเดือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่น
รายงานกล่าวไปถึงในช่วงระหว่างปี 2017 -2018 พบว่าอัตราการเติบโตของประชากรในเขตเทศมณฑลพื้นที่ซินเจียงที่มีชาวมุสลิมอุยกูร์อาศัยเป็นจำนวนมากนั้นต่ำกว่าอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยภายในเขตเทศมณฑลที่มีชาวฮั่นอาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเซนซ์ชี้ว่า 1 ปีหลังจากรายงานทางการบันทึกอัตราเฉลี่ยของการทำหมันในภูมิภาคนั้นสูงกว่าอัตราเฉลี่ยการทำหมันของทั้งประเทศจีนในปี 2016
นักเคลื่อนไหวมุสลิมอุยกูร์เปิดเผยว่า “จีน” ใช้ค่ายกักกันในซินเจียงเพื่อทำการล้างสมองเพื่อเป้าหมายลืมความเป็นมุสลิมและวัฒนธรรมชนเผ่าที่แตกต่าง
โดยในรายงานอาเดรียน เซนซ์ได้กล่าวว่า ผลการศึกษาชี้ไปว่าสิ่งที่รัฐบาลจีนกระทำต่อภูมิภาคซินเจียงอาจคล้ายกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มุสลิมอุยกูร์
“การค้นพบเหล่านี้สร้างความวิตกเป็นอย่างมากว่านโยบายรัฐบาลจีนที่ถูกใช้ในซินเจียงจากแง่มุมพื้นฐานแล้วอาจกล่าวได้ว่าเป็นเคมเปญเชิงภูมิศาสตร์ประชากรในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”