เอเจนซีส์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาทั่วโลกทะลุหลักครึ่งล้าน ขณะที่ลอสแองเจลิสสั่งปิดบาร์รอบใหม่ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อทะยานขึ้นมาอีก เช่นเดียวกับจีนที่สั่งล็อกดาวน์ประชาชนเกือบ 500,000 คนในพื้นที่มณฑลเหอเป่ยซึ่งล้อมรอบกรุงปักกิ่ง และรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียกำลังพิจารณาฟื้นมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมหลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน
ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลก นับถึงวันอาทิตย์ (28 มิ.ย.) ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 501,000 คนแล้ว นับจากที่ไวรัสโคโรนาของโรคระบาดนี้อุบัติขึ้นในจีนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการระบาดรอบสอง โดยที่อัตราการติดเชื้อกำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นคือเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว เพียงชั่วเวลาตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมมาถึงขณะนี้
จากข้อมูลของสำนักข่าวเอเอฟพี ผู้ติดเชื้อจำนวน 1 ล้านคนล่าสุด เกิดขึ้นภายในเวลา 6 วันเท่านั้น เฉพาะอเมริกาประเทศเดียวมีผู้ติดเชื้อกว่า 2.5 ล้านคน ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เวลานี้เกิน 125,000 คน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั่วโลก ขณะที่ความพยายามในการรีสตาร์ทเศรษฐกิจต้องสะดุดชะงักงัน จากยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานครั้งใหม่ในรัฐใหญ่ๆอย่างฟลอริดาและแคลิฟอร์เนีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกกดดันมากขึ้นให้สวมหน้ากากในที่สาธารณะเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน
ถึงแม้ทรัมป์พยายามยิ่งยวดเพื่อให้ตัวเองชนะการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน แต่ทีมหาเสียงของเขายืนยันแล้วว่า จะเลื่อนการปราศรัยหาเสียงของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในแอริโซนาและฟลอริดา ที่กำหนดไว้ในสัปดาห์นี้เพื่อระมัดระวังไว้ก่อน
ทางด้านอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขและบริการมนุษย์เตือนว่า สถานการณ์ในอเมริการุนแรงมาก และ“หน้าต่างกำลังจะปิดลง” ซึ่งหมายถึงโอกาสที่อเมริกาจะสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ใกล้หมดลงแล้ว
แคลิฟอร์เนีย รัฐใหญ่ทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ กลายเป็นรัฐล่าสุดที่บังคับใช้มาตรการจำกัดใหม่ โดยสั่งปิดบาร์ในลอสแองเจลิสและอีก 6 เทศมณฑล ซึ่งมีประชาชนพำนักอาศัยรวม 13.5 ล้านคน อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูง
พื้นที่ทางภาคใต้และภาคตะวันตกของอเมริกา ซึ่งพวกผู้ว่าการรัฐรีบเร่งให้ปลดล็อกเศรษฐกิจ กำลังกลายเป็นส่วนที่เผชิญการระบาดรุนแรงที่สุด
ในแคลิฟอร์เนีย ถึงแม้ลอสแองเจลิสเพิ่งยอมให้เปิดบาร์กันใหม่เมื่อวันที่ 19 ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องรีบถอยหลังกลับ
นอกจากนั้นรัฐแคลิฟอร์เนียยังสั่งให้ประชาชนในพื้นที่อื่นๆ บางพื้นที่กักตัวอยู่บ้านอีกรอบ ขณะที่ซานฟรานซิสโก “พัก” แผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ที่ฟลอริดา รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการของรัฐทางภาคตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ยอมรับว่า จำนวนเคสใหม่พุ่งทะยาน โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงสุดทำสถิติถึง 9,585 คน
ทั้งนี้ หนุ่มสาวที่อึดอัดกับการกักตัวอยู่บ้านมานานเป็นเดือนๆ ต่างกรูกันไปชายหาด เดินเล่นริมถนน และบาร์ โดยมักไม่สวมหน้ากากและดูเหมือนไม่สนใจการรักษาระยะห่างทางสังคม
เมืองไมอามี ของฟลอริดา ต้องประกาศปิดชายหาดในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นเทศกาลวันชาติ 4 ก.ค. แต่ยังอนุญาตให้เปิดบาร์ได้
ไวรัสโคโรนายังอาละวาดหนักทั่วละตินอเมริกา เฉพาะบราซิลพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 1.3 ล้านคน
นอกจากนั้นยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มในภูมิภาคอื่นๆ ที่ปลดล็อกผ่อนคลายมาตรการจำกัด เป็นต้นว่า ยุโรปขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 2.6 ล้านคน แม้อัตราการติดเชื้อรายวันนิ่งลงแล้วก็ตาม
สหภาพยุโรป ได้ระงับการตัดสินใจเกี่ยวกับรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยที่จะอนุญาตให้นักเดินทางเข้าสู่ยุโรปได้ โดยที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่ารายชื่อดังกล่าวจะไม่รวมอเมริกา
ขณะที่อังกฤษเตือนว่า อาจชัตดาวน์เมืองเลสเตอร์ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น แต่ยังยืนยันแผนเปิดผับ ร้านอาหาร และร้านตัดผมทั่วประเทศในวันที่ 4 เดือนหน้า
ที่ปารีส ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มหนุ่มสาวที่รวมตัวจัดปาร์ตี้เมื่อค่ำวันเสาร์
ทางด้านเอเชีย จีนสั่งล็อกดาวน์ประชาชนเกือบครึ่งล้านในพื้นที่ของมณฑลเหอเป่ยที่ล้อมรอบกรุงปักกิ่งเพื่อสกัดการระบาดแบบกลุ่มก้อนครั้งใหม่ที่ สีว์ เหอเจี้ยน เจ้าหน้าที่ในเมืองหลวงของจีน ระบุว่า สถานการณ์รุนแรงและซับซ้อน
อินเดียเผชิญการระบาดรุนแรงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในเมืองที่มีประชากรแออัด โดยขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 509,000 คน และเสียชีวิตกว่า 15,600 คน
อินโดนีเซียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 1,082 คนในวันจันทร์ รวมเป็น 55,092 คน และเสียชีวิต 51 คน เป็น 2,805 คน
อิหร่านประกาศว่า จะบังคับให้ประชาชนในบางพื้นที่สวมหน้ากากตั้งแต่สัปดาห์นี้
สำหรับ วิกตอเรีย รัฐใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย กำลังพิจารณาฟื้นมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หลังรายงานเมื่อวันจันทร์ (29) ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 75 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมทั่วประเทศเป็น 85 คน สูงสุดนับจากสถิติเดิมเมื่อวันที่ 11 เมษายน