xs
xsm
sm
md
lg

WHO ห่วงติดเชื้อแตะ 10 ล้านคนวีกหน้า IMF ชี้โควิดทุบ ศก.โลกเลวร้ายสุดขีด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ – องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะพุ่งแตะ 10 ล้านคนภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่เฉพาะวันพุธ (24 มิ.ย.) ที่ผ่านมา อเมริกาและบราซิลพบเคสใหม่เพิ่มกว่า 78,000 คน ส่งผลให้หลายรัฐในเมืองลุงแซมงัดมาตรการสกัดไวรัสกลับมาบังคับใช้อีกครั้ง ด้านออสเตรเลียก็เตรียมส่งทหาร 1,000 นายไปช่วยควบคุมการระบาดรอบใหม่ในนครเมลเบิร์น ส่วน “ไอเอ็มเอฟ” เตือนโควิด-19 สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกรุนแรงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชี้ปีนี้มีแค่จีนที่จีดีพีไม่ติดลบ แต่จะโตเพียง 1%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อวันพุธ เปิดตัวรายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ฉบับอัปเดต ซึ่งระบุว่า วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ครั้งนี้ ไม่เหมือนวิกฤตครั้งใดๆ ในอดีต โดยจะฉุดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของโลกดิ่งลง 4.9% ในปีนี้ และสร้างความสูญเสียถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 2 ปี

หลายประเทศจะเผชิญภาวะถดถอยเลวร้ายกว่าเมื่อครั้งวิกฤตการเงินโลกปี 2008-2009 ในระดับมากกว่าสองเท่าตัว นอกจากนั้น ไอเอ็มเอฟยังคาดว่า จีนจะเป็นประเทศเดียวที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวไดเในปีนี้ แต่จะเติบโตในอัตราเพียง 1% ส่วนอเมริกาถูกคาดหมายว่า จีดีพีจะหดตัวถึง 8% ขณะที่ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และอังกฤษมีแนวโน้มติดลบในอัตราเลขสองหลัก

สำหรับสถานการณ์การระบาดนั้น สหรัฐฯมียอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขกว่า 121,000 คน และเกือบ 2.4 ล้านคนตามลำดับ แถมจำนวนเคสใหม่ยังพุ่งขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคใต้และภาคตะวันตกของประเทศ

ข้อมูลออนไลน์ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในวันพุธระบุว่า อเมริกามีผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 35,900 ล้านคนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พอๆ กับสถิติสูงสุดรายวันในช่วงก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคาร (23) นายแพทย์แอนโธนี ฟาวซี ที่ปรึกษาระดับสูงของทำเนียบขาว ก็กล่าวเตือนเอาไว้ว่าว่า ในอีก 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ สถานการณ์การระบาดจะถึงช่วงเวลาสำคัญยิ่งยวดที่ท้าทายความสามารถของอเมริกาในการรับมือจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งกำลังพุ่งขึ้นในรัฐอย่าง ฟลอริดา เท็กซัส และรัฐอื่นๆ

เกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐที่เดินหน้าผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มากที่สุด แถลงว่า อาจบังคับใช้มาตรการจำกัดต่างๆ กันใหม่อีกครั้ง เนื่องจากหากยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ สถานการณ์จะลุกลามเกินการควบคุม

ส่วนที่ละตินอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ไวรัสโคโรนาระบาดรุนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตในละตินอเมริกาซึ่งรวมพวกประเทศในแถบแคริบเบียนด้วย อยู่ในระดับเกิน 100,000 คนไปแล้ว

บราซิล ยังคงเป็นประเทศที่มีการระบาดสาหัสที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยพบผู้ติดเชื้อใหม่ในวันพุธวันเดียวแซงหน้าอเมริกา ด้วยตัวเลขถึงกว่า 42,700 คน


โดมิงโก อัลเวส ศาสตราจารย์ด้านแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยเซาเปาลู ในบราซิล และเป็นสมาชิกในคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ที่ติดตามสถานการณ์ไวรัสกล่าวว่า แดนแซมบ้ายังอยู่ในช่วงการระบาดรอบแรกโดยที่กราฟยังคงพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว และสำทับว่า การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปเท่ากับเป็นการส่งประชาชนเข้าโรงฆ่าสัตว์

ขณะเดียวกัน เทดรอส แอดฮานอม เกรเบเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ระบุในการแถลงข่าววันพุธว่า ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคนในสัปดาห์หน้า หลังจากเดือนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวพบผู้ติดเชื้อใหม่ทำสถิติสูงสุดถึง 4 ล้านคน

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่กว่า 9.3 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 480,000 คน หรือเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัวในช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน

เกรเบเยซุสเสริมว่า ทุกประเทศมีความรับผิดชอบเร่งด่วนในการทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อกดอัตราการระบาดให้ลดลงและรักษาชีวิตประชาชน

ด้าน นายแพทย์ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO เตือนว่า วิกฤตโรคระบาดในทวีปอเมริกายัง8’ไม่ถึงจุดเลวร้ายที่สุด โดยขณะนี้มีการระบาดรุนแรงมากในอเมริกากลางและใต้ด้วยอัตราผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 25-50% ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เขายังบอกอีกว่า ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ในเรื่องที่จะต้องมีการขยายมาตรการล็อกดาวน์ออกไปอีก

สำหรับที่ยุโรป ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คลื่นร้อนในช่วงฤดูร้อนอาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในภูมิภาคนี้ดีดกลับขึ้นมาใหม่ เนื่องจากคนจะพากันออกไปชายหาดและสวนสาธารณะโดยเพิกเฉยต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

ในส่วนของจีนเผยว่า การระบาดรอบใหม่ในปักกิ่ง ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 256 คนตั้งแต่ต้นเดือน ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการแพร่ระบาดในชุมชน

ทางออสเตรเลีย รัฐมนตรีกลาโหม ลินดา เรย์โนลด์ส แถลงในวันพฤหัสฯ (25) ว่า จะส่งทหาร 1,000 นายไปยังเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรียในอีกไม่กี่วันนี้เพื่อช่วยควบคุมการระบาด หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกือบ 150 คนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เฉพาะวันพฤหัสฯ มีเคสใหม่เพิ่มอย่างน้อย 37 คน สูงสุดนับจากกลางเดือนเมษายน

แดเนียล แอนดริวส์ นายกรัฐมนตรีรัฐวิกตอเรีย เผยว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 1,000 คนไปแจ้งเตือนประชาชนถึงบ้านในเขตที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด เพื่อให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ โดยหวังว่า จะตรวจประชาชน 100,000 คนภายใน 10 วัน

ออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมราว 7,500 คน และเสียชีวิต 104 คน จากประชากร 25 ล้านคน โดยเชื่อว่า หลายพื้นที่ไม่มีผู้ติดเชื้อแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น